เหตุการณ์ทหารไทยขาขาดจากกับระเบิดในพื้นที่ชายแดนด้าน จว.สระแก้ว ไม่ใช่เพียงข่าวร้ายรายวัน ในสื่อต่าง ๆ อีกต่อไปแล้ว แต่นั่นคือ “จุดระเบิด” ทางการทูตที่ประเทศไทยไม่อาจเงียบเฉยได้อีก
หลังจากมีการตรวจสอบพื้นที่โดยหน่วยงานความมั่นคงของไทย พบว่ากับระเบิดที่ทําให้ทหารต้องสูญเสียอวัยวะ ไม่ใช่ของเก่าตกค้างจากสงคราม แต่ถูกฝังใหม่อย่างชัดเจน ซ่ึงขัดต่อหลักมนุษยธรรมและอนุสัญญาระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง
กระทรวงการต่างประเทศของไทยจึงได้แสดงจุดยืนที่เด็ดขาด ด้วยการเชิญทูตทหารและผู้แทนการทูตของประเทศต่างๆ ที่มีสถานะในไทยมารับฟังข้อเท็จจริงและร่วมกันประณามการกระทําที่ฝ่าฝืน อนุสัญญาออตตาวา ซึ่งมีเป้าหมายในการห้ามผลิต, ใช้, โอน หรือสะสมกับระเบิดสังหารบุคคล (Anti-Personnel Mines) อย่างเป็นระบบ
อนุสัญญาออตตาวา (Ottawa Treaty) เป็ นสนธิสัญญาระหว่างประเทศที่มีผลบังคับใช้ในปี 1999 มีประเทศภาคีมากกว่า 160 ประเทศ รวมถึงประเทศไทย โดยกําหนดห้ามการใช้ การผลิต การสะสม และการโอน กับระเบิดสังหารบุคคล พร้อมท้ังกําหนดให้แต่ละประเทศต้องทําลายกับระเบิดท่ีมีอยู่ และจัดการพื้นที่ปนเปื้อนให้สิ้น ซากภายในระยะเวลาที่กําหนด
การที่กับระเบิดถูกนํามาใช้ใหม่ในปี 2025 จึงเป็นการละเมิดอนุสัญญานี้อย่างชัดแจ้ง นําไปสู่คําถามสําคัญว่า “ใคร” คือผู้รับผิดชอบ และ “อะไร” คือคําตอบของกระบวนการยุติธรรมในระดับนานาชาติ
แน่นอนว่า ประเทศไทยในฐานะภาคีอนุสัญญาและผู้เสียหายโดยตรง มีสิทธิ์อย่างเต็มที่ในการแสดง ท่าทีทางการทูตอย่างแข็งขัน และสามารถดําเนินการตามช่องทางของสหประชาชาติหรือกลไกความม่ ันคงภูมิภาค ได้โดยชอบธรรม
ฝ่ายความม่ ันคงของไทยในหลายระดับ ได้แสดงจุดยืนร่วมกันว่าเหตุการณ์นี้ไม่สามารถเพิกเฉยได้ และต้องมีการติดตามอย่างใกล้ชิดท้ังทางการทูตและทางยุทธศาสตร์
แม้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจะต้องดําเนินไปด้วยความยับย้ังชั่งใจ ด้วยมิตรไมตรีของประเทศ ที่มีชายแดนต่อเนื่อง แต่ในขณะเดียวกัน การปกป้ องอธิปไตยและความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนก็เป็นภารกิจที่ไม่อาจประนีประนอมได้เช่นกัน ท่ามกลางเสียงประณามของคนรอบทิศ และวิพากษ์วิจารณ์ของหลายประเทศไทยยังยํ้าความจําเป็น ในการดํารงสัมพันธภาพทางการทูตในระดับ “สร้างสรรค์” และ “รักษาเสถียรภาพ” ตามครรลองสากลมาตลอดแต่ในขณะเดียวกัน คนไทยหัวใจรักชาติกําลังจับตามองความตี่นตัวของกระทรวงการต่างประเทศที่จะเคลื่อนไหวอย่างจริงจังตอบโต้ให้ผู้กระทําผิดได้สํานึก ด้วยการ“เรียกทูตกลับประเทศ” อย่างเป็นทางการ การจะส่งสัญญาณชัดเช่นนี้ก็เพื่อบอกได้ว่า ประเทศไทยพร้อมจะ “กําหมัด”ทันที เมื่อใครก็ตามละเมิดสัมพันธภาพสากลโดยบังอาจยํ่าเข้ามาในผืนแผ่นดินของเรา