วันศุกร์, พฤศจิกายน 14, 2025
spot_imgspot_imgspot_img
หน้าแรกวัฒนธรรม ชีวิตฝรั่ง(เศส)ว่าไว้เมื่อ 250 ปีแล้ว แต่ตรงเกือบทุกข้อ

ฝรั่ง(เศส)ว่าไว้เมื่อ 250 ปีแล้ว แต่ตรงเกือบทุกข้อ

เผยแพร่

spot_img

 โดยเฉพาะข้อนี้ที่ว่า

– ไม่มีประเทศใดในโลกที่คนทุจริตจะมีวิธีพลิกแพลงมากเท่ากับในประเทศสยาม มีคนชำนาญการในการทำให้คดียุ่ง สามารถทำให้เรื่องร้ายที่สุดกลับไปในทางดีได้และเขาจะเรียกร้องค่าตอบแทนอย่างสูงทีเดียว

ตุรแปง ชาวฝรั่งเศส เขียนจากข้อมูลที่ได้จากบาทหลวงบรีโกต์ซึ่งเคยอยู่ในกรุงศรีอยุธยาหลายปีจนกระทั่งกรุงแตก พิมพ์ที่กรุงปารีสใน พ.ศ. 2314 (ค.ศ. 1771)

นิสัยใจคอของชาวสยาม 

– ภาคภูมิใจในชาติ รักขนบธรรมเนียมอย่างเหนียวแน่น อ่อนโยนสุภาพ มีเมตตา ซ่อนความรู้สึก ไม่ชอบพูดมาก มัธยัสถ์ ไม่ชอบหรูหราฟุ่มเฟือย ไม่เห็นแก่ตัว มีความรู้จักพอ

จุดอ่อนของชาวสยาม 

– เฉื่อยชาเกียจคร้าน ย่อท้อ ไม่ชอบทำอะไรที่ลำบากยากเย็น ไม่ยินดียินร้าย ไม่ชอบเหน็ดเหนื่อยและยากลำบาก มักจะเหลาะแหละ ไม่ยอมรับหลักการและผลที่เกิดจากหลักการ จิตใจไม่ค่อยได้รับการฝึกฝน จึงไม่เคยแยกว่าอะไรดีและอะไรไม่ดี ที่สุดแล้วประพฤติโดยไม่นึกจะคิดไตร่ตรองหาเหตุผล

– มักเป็นนายที่แข็งกระด้าง ไม่ค่อยรู้วิธีบังคับบัญชาคน มีความเจ็บแค้นสูงเมื่ออับอาย บ้าคลั่งอย่างไม่รู่จักชั่งใจเมื่อโมโห บางครั้งโหดเหี้ยมทำร้ายกันถึงตาย

– มักยอมอ่อนน้อมต่อผู้อยู่เหนือกว่า แต่จะหยิ่งดูหมิ่นคนที่ต่ำกว่าและคนที่แสดงยกย่องเขา บางคนช่างพูดอย่างมีเล่ห์เหลี่ยม อ้างเหตุผลผิด ๆ มาตบตาคน 

– เชื่อถือไสยศาสตร์ โชคลาง หมอดู เข้าทรงและคาถาอาคม

– ชาวสยามชอบการพนันอย่างยิ่ง ผู้แพ้การพนันยอมขายได้แม้กระทั่งลูกเมียของตน

– การศึกษาของสยามขาดวิชารู้จักคิดหาเหตุผล คนสยามพยายามจะไม่คิดเพราะความคิดทำให้เหน็ดเหนื่อย

– ไม่มีประเทศใดในโลกที่คนทุจริตจะมีวิธีพลิกแพลงมากเท่ากับในประเทศสยาม มีคนชำนาญการในการทำให้คดียุ่ง สามารถทำให้เรื่องร้ายที่สุดกลับไปในทางดีได้ และเขาจะเรียกร้องค่าตอบแทนอย่างสูงทีเดียว

*ผมเก็บบันทึกฉบับนี้ไว้หลายปีแล้ว ไว้คอยเตือนใจตนเองและชาวไทยซึ่งเป็นเชื้อสายเดียวกับชาวสยามว่าจุดแข็งและจุดอ่อนของเราในสายตาของชาวต่างชาตินั้นคืออะไรและจริงหรือไม่ ขณะนี้เกิดกรณีผู้ทำผิดกฏหมายแต่กลับรอดพ้นทุกคดีกลายเป็นผู้บริสุทธิ์ได้อย่างเป็นที่กังขาของสาธารณชน เป็นไปตามข้อสุดท้ายในบันทึกนี้ เราจะทำใจให้ลืมกันไปเพราะนี่คือนิสัยประจำเผ่าพันธุ์ชาวสยามหรือครับ (..)

ปองพล อดิเรกสาร

ข่าวล่าสุด

รัฐบาลไทยมัวแต่ “ประจันหน้า” สู้ศึกหน้าบ้าน ระวัง “หลังบ้าน”

ถูกโจรสแกมเมอร์ยึดจนไร้ทางแก้                               สถานการณ์อาชญากรรมข้ามชาติและการหลอกลวงประเภทสแกมเมอร์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงอยู่ในขั้น วิกฤตที่กำลังลุกลามอย่างรวดเร็ว                                ข่าวจากหลายสำนักยืนยันว่าการกวาดล้างในฐานที่มั่นเดิมอย่างกัมพูชาและเมียนมาได้ผลักดันกลุ่มทุนจีนเทาให้โยกย้ายฐานปฏิบัติการมาสู่ อาณาจักรคิงส์โรมัน ในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ สปป.ลาว ตรงข้าม อ.เชียงแสน จ.เชียงราย โดยพื้นที่นี้ได้ถูกยกระดับเป็น "ศูนย์บัญชาการ" แห่งใหม่ที่มีความซับซ้อนและมีโครงสร้างพื้นฐานรองรับอาชญากรรมอย่างเป็นระบบ                              อาคารสูงกว่า 30 ชั้น  การลงทุนที่หลั่งไหลเข้ามาเพื่อสร้างอาณาจักรนี้ชี้ให้เห็นว่าผลประโยชน์จากธุรกิจสีเทามีมูลค่ามหาศาล...

ประวัติรองเท้า “นันยาง” 

ย้อนกลับไปสมัยรัชกาลที่ 6 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ราวพุทธศักราช 2460 หนุ่มน้อยอายุ 15 ปี จากมณฑลฮกเกี้ยน ประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ ชื่อ ซู ถิง ฟาง หรือ วิชัย ซอโสตถิกุล ล่องสำเภาพร้อมบิดา แบบเสื่อและหมอนมายังแผ่นดินสยาม

 รัฐบาล 4 เดือน กับมรสุม“ความเชื่อมั่น“

คณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบันที่เข้าบริหารประเทศภายใต้เงื่อนไขความเชื่อมั่น 4 เดือน กำลังเผชิญกับมรสุมทางการเมืองที่ถาโถมจากหลายทิศทางอย่างหนักหน่วง

เมื่ออายุได้ 53 ปี มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในโลกได้รับคำตัดสินว่า เขามีเวลาเหลืออยู่เพียง “หนึ่งปีสุดท้ายของชีวิต”

ชายคนนั้นคือ จอห์น เดวิสัน ร็อกกีเฟลเลอร์ (John Davidson Rockefeller) เมื่ออายุ 25 ปี เขาเป็นเจ้าของโรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในอเมริกา พออายุ 31 ปี เขาก็กลายเป็นผู้บริหารบริษัทที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก และเมื่ออายุ 38...

ข่าวอื่นๆ

๗ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๑๙ วันประสูติ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงนครไชยศรีสุรเดช ต้นราชสกุล “จิรประวัติ”

✩ จอมพล พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงนครไชยศรีสุรเดช (๗ พฤศจิกายน ๒๔๑๙ - ๔ กุมภาพันธ์ ๒๔๕๖) เป็นหนึ่งในพระราชโอรสกลุ่มแรกในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวที่ทรงไปศึกษาต่อในทวีปยุโรป

ผ้าม่วงทึ่ใช้นุ่งโจงกระเบนในสมัยก่อนนั้น เหตุใดจึงเรียกว่าผ้าม่วง

สาเหตุที่เรียกผ้าม่วงก็เพราะผ้าไหมชนิดนี้สั่งทำมาจากเมืองจีน เป็นผ้าที่ทอมาจากโรงงานในเมือง "หม่วง" ในมณฑลเซี่ยงไฮ้ประเทศจีน

ท่านผู้หญิงขจร ภะรตราชา ผู้ถูกคัดเลือกไปเรียนการฝีมือที่ญี่ปุ่นสมัย ร.๖

สมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี ทรงเห็นชอบในพระราชดำริ จึงทรงเลือกกุลสตรี 4 คน ซึ่งประกอบไปด้วย คุณหลี, คุณพิศ, คุณนวล, และคุณขจร หรือท่านผู้หญิงขจร ภะรตราชา ท่านผู้หญิงขจรกับคุณพิศ ไปเรียนวิชาปักสะดึง และวาดเขียนแบบญี่ปุ่น ส่วนคุณหลีและคุณนวล ไปเรียนการทำดอกไม้แห้ง