วันศุกร์, พฤศจิกายน 14, 2025
spot_imgspot_imgspot_img
หน้าแรกเศรษฐกิจ การเงินภาษีสหรัฐฯ สั่นคลอนอนาคตธุรกิจ SMEs ในเอเชีย บางส่วนอาจต้องปิดกิจการ!

ภาษีสหรัฐฯ สั่นคลอนอนาคตธุรกิจ SMEs ในเอเชีย บางส่วนอาจต้องปิดกิจการ!

เผยแพร่

spot_img

ภาษี 19-20% พร้อมภาษีลงโทษ transshipments 40% กระทบห่วงโซ่อุปทาน ผู้เชี่ยวชาญเตือน “หายนะสำหรับหลายกิจการ” เซมิคอนดักเตอร์เผชิญภาษี 100%

ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางทั่วเอเชียเผชิญความท้าทายครั้งใหม่จากมาตรการภาษีของรัฐบาลทรัมป์ ขณะที่ยังไม่ทันฟื้นตัวจากผลกระทบการระบาดโควิด-19 ตามรายงาน SCMP หลายประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต้องเผชิญภาษีนำเข้าสหรัฐฯ อัตรา 19-20% พร้อมภาษีเพิ่มเติมสำหรับอุตสาหกรรมเฉพาะเช่นเหล็กกล้าและเซมิคอนดักเตอร์ ตามรายงานจาก SCMP 

รัฐบาลทรัมป์กำหนดภาษีลงโทษ 40% สำหรับสินค้า transshipments ที่ขนส่งผ่านประเทศที่สาม คาดส่งผลกระทบหนักต่อผู้ส่งออกเอเชียที่ต้องพึ่งพาส่วนประกอบจากจีน 

เฮนริช เกรฟ ผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการศูนย์เพื่อการเป็นผู้ประกอบการแห่งสถาบัน INSEAD เตือนว่า “การได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่เกิดจากภาษี ในช่วงเวลาที่เพิ่งฟื้นตัวจากการระบาดใหญ่ จะเป็นหายนะสำหรับหลายกิจการ”

 ธุรกิจ SMEs มีสัดส่วนมากกว่า 90% ของธุรกิจทั้งหมดในเอเชีย แต่เปราะบางต่อผลกระทบจากภาษีมากกว่าบริษัทขนาดใหญ่ เนื่องจากดำเนินงานด้วยอัตรากำไรต่ำและต้องอาศัยกระแสเงินสดคงที่เพื่อความอยู่รอด 

จามัส ลิม รองศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์จาก ESSEC Business School เตือนว่า “บริษัทขนาดเล็กจำนวนมากอาจถูกบีบให้ต้องเลิกกิจการ เนื่องจากไม่สามารถจัดหาส่วนประกอบสำคัญจากผู้ผลิตต้นทุนต่ำอย่างจีนได้อีกต่อไป”

 ผลกระทบเริ่มแผ่ขยายไปทั่วภูมิภาค ผู้บริหารอุตสาหกรรมรายงานว่าผู้ซื้อชาวสหรัฐฯ เริ่มเรียกร้องให้ลดราคาหรือมองหาผู้จัดหาสินค้าใหม่ อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เผชิญความท้าทายรุนแรงเมื่อสหรัฐฯ เตรียมบังคับใช้ภาษี 100% ส่งผลกระทบต่อสิงคโปร์ มาเลเซีย และเวียดนามที่ลงทุนหนักในภาคส่วนนี้ 

เฮนริช เกรฟ ชี้ว่า “ที่สุดแล้ว บางส่วนจะล้มละลาย หรือถูกขายให้กับกิจการขนาดใหญ่กว่า” ขณะที่ SMEs จำนวนมากมองหาการเลื่อนชำระคืนเงินกู้หรือการสนับสนุนจากภาครัฐเพื่อประคับประคองธุรกิจ 

( #IMCTnews รายงาน)

ข่าวล่าสุด

รัฐบาลไทยมัวแต่ “ประจันหน้า” สู้ศึกหน้าบ้าน ระวัง “หลังบ้าน”

ถูกโจรสแกมเมอร์ยึดจนไร้ทางแก้                               สถานการณ์อาชญากรรมข้ามชาติและการหลอกลวงประเภทสแกมเมอร์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงอยู่ในขั้น วิกฤตที่กำลังลุกลามอย่างรวดเร็ว                                ข่าวจากหลายสำนักยืนยันว่าการกวาดล้างในฐานที่มั่นเดิมอย่างกัมพูชาและเมียนมาได้ผลักดันกลุ่มทุนจีนเทาให้โยกย้ายฐานปฏิบัติการมาสู่ อาณาจักรคิงส์โรมัน ในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ สปป.ลาว ตรงข้าม อ.เชียงแสน จ.เชียงราย โดยพื้นที่นี้ได้ถูกยกระดับเป็น "ศูนย์บัญชาการ" แห่งใหม่ที่มีความซับซ้อนและมีโครงสร้างพื้นฐานรองรับอาชญากรรมอย่างเป็นระบบ                              อาคารสูงกว่า 30 ชั้น  การลงทุนที่หลั่งไหลเข้ามาเพื่อสร้างอาณาจักรนี้ชี้ให้เห็นว่าผลประโยชน์จากธุรกิจสีเทามีมูลค่ามหาศาล...

ประวัติรองเท้า “นันยาง” 

ย้อนกลับไปสมัยรัชกาลที่ 6 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ราวพุทธศักราช 2460 หนุ่มน้อยอายุ 15 ปี จากมณฑลฮกเกี้ยน ประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ ชื่อ ซู ถิง ฟาง หรือ วิชัย ซอโสตถิกุล ล่องสำเภาพร้อมบิดา แบบเสื่อและหมอนมายังแผ่นดินสยาม

 รัฐบาล 4 เดือน กับมรสุม“ความเชื่อมั่น“

คณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบันที่เข้าบริหารประเทศภายใต้เงื่อนไขความเชื่อมั่น 4 เดือน กำลังเผชิญกับมรสุมทางการเมืองที่ถาโถมจากหลายทิศทางอย่างหนักหน่วง

เมื่ออายุได้ 53 ปี มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในโลกได้รับคำตัดสินว่า เขามีเวลาเหลืออยู่เพียง “หนึ่งปีสุดท้ายของชีวิต”

ชายคนนั้นคือ จอห์น เดวิสัน ร็อกกีเฟลเลอร์ (John Davidson Rockefeller) เมื่ออายุ 25 ปี เขาเป็นเจ้าของโรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในอเมริกา พออายุ 31 ปี เขาก็กลายเป็นผู้บริหารบริษัทที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก และเมื่ออายุ 38...

ข่าวอื่นๆ

สินค้านำเข้าทุกชิ้น! ต้องเสียภาษี ‘ศุลกากร’ เริ่ม 1 ม.ค.69

สั่งของจากจีนเตรียมจ่ายเพิ่ม? กรมศุลกากรประกาศชัด ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2569 เป็นต้นไป สินค้านำเข้าจากต่างประเทศ จะถูกจัดเก็บภาษีศุลกากรและ VAT ทุกชิ้น!

ศาลสูงสหรัฐฯ ส่อคว่ำภาษีทรัมป์ อาจนำไปสู่วิกฤตการคืนภาษีทั่วโลก โอกาสทรัมป์ชนะคดีภาษีมีเพียง 30%

โอกาสทรัมป์ชนะคดีภาษี ดิ่งเหลือ 30% หลังศาลสูงตั้งคำถามหนักชี้ขาดอำนาจบริหาร ภายหลังจากการไต่สวนคดีสำคัญในศาลฎีกา (Supreme Court) สหรัฐอเมริกาเมื่อคืนที่ผ่านมา

แต่งตั้ง “เศรษฐพุฒิ” อดีตผู้ว่าฯ ธปท.เป็น “ที่ปรึกษาสำนักงานพระคลังข้างที่”

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชวินิจฉัยแต่งตั้ง นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาสำนักงานพระคลังข้างที่