คุณเคยเห็นหนุ่มสาวเปลือยร่างโผกอดกันยามตะวันตกดินไหม…?
อยากไปดูไหมล่ะ….!
ตามมากับผมก่อนก็ได้….!
ผมยืนริมทะเลดำ
ลมเค็มปนกลิ่นสน
เบื้องหน้า… ชายหญิงโลหะ เคลื่อนเข้าหากัน… ทะลุผ่านกัน… แล้วห่างออกไป
เหมือนรักที่สวย แต่ไม่เคยได้สัมผัส
คืนนั้น
ไฟดับ… โลหะหยุด… ลมเงียบ
เสียงกระซิบภาษาที่ไม่มีใครเข้าใจ
เงาชายหญิงโอบกันข้างรูปปั้น
สองวันต่อมา… ไฟฟ้าเมืองนี้รวนทั้งคืน
“Ali and Nino. รักโลหะเคลื่อนไหวที่ชายหาด Batumi… และความลับในคืนที่ไฟดับ”
คุณเชื่อไหม…ว่ารูปปั้นโลหะขนาดยักษ์ สามารถบอกเล่าเรื่อง “รัก” ที่ไม่ได้สมหวังได้ดีกว่าคำพูด?
ผมเพิ่งลงเครื่องที่สนามบิน Batumi (BUS) หลังเดินทางมาจากอิสตันบูล ผ่านท้องฟ้าเหนือคาบสมุทรบอลข่านและทะเลดำ
รับกระเป๋าเดินทางแล้วเรียกแท็กซี่เข้าเมือง Batumi แค่ 20 นาที
หรือจะขึ้นรถมินิบัส Marshrutka สาย 9
จ่ายไม่เกิน 10 บาท ก็ได้แล้ว
ไปจอร์เจีย….ไม่ยากหรอก
ไม่มีบินตรง…จากสุวรรณภูมิ
บินไปอิสตันบูล แล้วต่อดอเมสติคไปบาตูมี่ อย่างที่ผมทำ
หรือจะไปลงมอสโคว์ ฟังข่าวหมีข่าวว่าจะขย้ำยูเครนอีกเมื่อไหร่. แล้วค่อยต่อไปบาตูมี่..ก็ได้
แท็กซี่แล่นผ่านถนนริมทะเลที่เต็มไปด้วยคาเฟ่และร้านอาหารเล็ก ๆ กลิ่นเครื่องเทศอบอวลลอยมาตามลม หยุดที่จุดหมาย…
ถ้าหิว..กินง่าย ๆ ก็ได้
กินไปเดินไป จ่ายนิดหน่อย แนะ ให้ชิม “Adjaruli Khachapuri” ขนมปังรูปเรือกรอบนอกนุ่มใน โอบอุ้มชีสสดและไข่แดงไหลเยิ้มที่ขึ้นชื่อของเมืองนี้ ซ้ายขวาทางเดินก็มีขาย
สวนสาธารณะริมทะเล ใจกลางเมือง Batumi ตรงนั้นคือที่ตั้งของประติมากรรม “Ali and Nino” คู่รักโลหะที่กำลังจะเล่าเรื่องรักผ่านการ“เคลื่อนไหว” ของทั้งสอง
บาตูมี่ ไม่ใช่แค่เมืองท่าริมทะเล แต่คือเวทีชีวิตที่บรรจุเรื่องราวหลากวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่ซับซ้อน Ali ชายหนุ่มมุสลิม และ Nino หญิงสาวคริสเตียน คือภาพแทนความต่างที่ถูกหลอมรวมในเมืองที่เต็มไปด้วยสีสันของชาติพันธ์และศาสนา
เมืองนี้คือสะพานเชื่อมยุโรปและเอเชีย ที่ซึ่งความหลากหลายทั้งการค้าและสถาปัตยกรรมสะท้อนการผสมผสานทางวัฒนธรรมและการเมือง เหมือนกับรักของ Ali กับ Nino ที่ไม่ใช่แค่เรื่องส่วนตัว แต่คือบทเรียนแห่งความเข้าใจและอยู่ร่วมอย่างสันติในโลกที่ต่างกัน
เชื่อมโยงรักกับประวัติศาสตร์ของบาตูมี่ คือการค้นพบว่าความรักนั้นลึกซึ้งกว่าที่ตาเห็น และความจริงของเมืองนี้ คือความหวังและความเปลี่ยนแปลงที่รอวันคลี่คลาย
ศิลปิน Tamar Kvesitadze จึงสร้างรูปปั้นนี้ให้ “เคลื่อนเข้าหากันและแยกจากกัน” ทุกวัน เป็นเวลาเดียวกัน… เหมือนหัวใจที่ยังเต้น แต่ไม่มีวันอยู่ด้วยกัน

แต่… ในปีหนึ่ง มีเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวจำจนลืมไม่ลง
คืนหนึ่ง ขณะที่รูปปั้นกำลังเคลื่อนชิดกัน ไฟในสวนสาธารณะก็ดับวูบ
ทุกอย่างหยุดนิ่ง… โลหะไม่ขยับ ลมเงียบกริบ
ในความมืด มีคนได้ยินเสียงกระซิบแผ่ว…
ไม่ใช่ภาษาจอร์เจีย ไม่ใช่อาเซอร์ไบจาน แต่เป็นภาษาที่ไม่มีใครเข้าใจ และมีคนเห็น “เงา” ของชายหญิงโอบกอดกันอยู่ข้างรูปปั้น
หลังจากนั้น… 2 วัน ไฟฟ้าในเมืองติดขัดทั้งคืน เหมือนมีใครไม่อยากให้วงจรไฟฟ้ากลับมาทำงาน
แต่ก่อนจะได้เห็นความมหัศจรรย์นี้… ผมต้องเล่าให้ฟังถึงเรื่องดราม่าที่ซ่อนอยู่กับประติมากรรมนี้
คืนหนึ่งในเมือง Batumi ช่วงเวลาที่รูปปั้นชายหญิงกำลังเคลื่อนตัวเข้าหากันอย่างช้า ๆ เพื่อบอกเล่าเรื่องราวรักที่พรากจากกัน นักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งจับกลุ่มพูดคุยกันอย่างเงียบ ๆ
จู่ ๆ ไฟในสวนสาธารณะก็ดับวูบ แสงไฟที่ส่องสว่างให้เห็นรายละเอียดทุกซอกมุมหายไป ชายหญิงโลหะหยุดเคลื่อนไหวเหมือนถูกแช่แข็ง
ในความมืดมิด เสียงลมทะเลแผ่วเบา เสียงกระซิบดังขึ้นราวกับมีบางสิ่งที่ไม่ใช่แค่รูปปั้น…แต่เป็นวิญญาณของ Ali และ Nino ที่ยังคงวนเวียนรอวันได้กลับมาอยู่ด้วยกันอย่างแท้จริง
เรื่องเล่าว่ามีคู่รักชาวท้องถิ่นหลายคู่เคยมาที่นี่เพื่อขอพรให้รักยืนยาว บางคู่กลับออกไปพร้อมน้ำตาแห่งความสุข บางคู่กลับมาเพียงลำพัง…
ความรักของ Ali กับ Nino ไม่ได้มีแค่ความเศร้าจากพรหมลิขิตที่ขวางกั้น แต่ยังเต็มไปด้วยความน่ารัก และเหตุการณ์แสบ ๆ ที่ทำให้คนท้องถิ่นเล่าต่อกันอย่างสนุกสนาน
มีเรื่องเล่าว่าในคืนหนึ่งก่อนที่รูปปั้นจะเคลื่อนตัว
อาลี Ali โผล่มาขอพรให้เขาได้เจอ สาวนีโน่ Nino อีกครั้ง แต่ดันลืมกุญแจรูปปั้นไว้ในมือ
ทำให้ตอนเคลื่อนตัว รูปปั้นชายหญิงที่ควรจะโอบกอดกัน กลับแยกกันผิดจังหวะ กลายเป็นเหมือนคนทะเลาะกันกลางสวนสาธารณะ ท่ามกลางเสียงหัวเราะของนักท่องเที่ยวที่ดูอยู่
แต่เหนือความสนุกก็มีน้ำตา เมื่อมีคู่รักคู่หนึ่งมาร่วมพิธีขอพรต่อรูปปั้นนี้ พวกเขาบอกว่าเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะต้องแยกทางเพราะเหตุผลชีวิตที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ภายใต้แสงไฟสลัวของประติมากรรมที่เคลื่อนไหวอย่างช้า ๆ
คู่นี้จับมือกันแน่นและปล่อยให้น้ำตาไหลท่ามกลางเสียงคลื่นที่ซัดเข้าฝั่ง
ใครที่เห็นเหตุการณ์นั้นต่างบอกว่าความรักที่นี่ ไม่ใช่แค่เรื่องราวของ Ali และ Nino แต่คือความรักของทุกคนที่พร้อมจะยืนหยัดแม้จะต้องเผชิญกับความเจ็บปวดและพรากจาก
กัน
และนั่นคือเสน่ห์ของ Batumi ที่ไม่ได้มีแค่ชายหาดและร้านอาหารอร่อย
บางคนคิดว่า….
บางความรัก อยู่ไกล…ก็เหมือนอยู่ใกล้ !
บางความรัก… ไม่ต้อง “เข้าใกล้” แต่ขอให้
“เข้าใจ” !
คุณล่ะ…คิดอะไรอยู่ !