วันพฤหัสบดี, กันยายน 25, 2025
spot_imgspot_imgspot_img
หน้าแรกวัฒนธรรม ชีวิตวันก่อนไม่ทราบว่าทำไม แต่ผมนึกถึงแฟชั่นของบ้านเรา ในระยะปีพ.ศ. ๒๕๐๐ พยายามจำว่าแฟชั่นของบ้านเราในตอนนั้นเป็นอย่างไรเอ่ย  

วันก่อนไม่ทราบว่าทำไม แต่ผมนึกถึงแฟชั่นของบ้านเรา ในระยะปีพ.ศ. ๒๕๐๐ พยายามจำว่าแฟชั่นของบ้านเราในตอนนั้นเป็นอย่างไรเอ่ย  

เผยแพร่

spot_img

ก็ปรากฏว่าจำอะไรไม่ได้เลย เพราะแฟชั่นโชว์ยังไม่เกิดที่บ้านเราเอาเสียเลย 

๖๘ ปีมาแล้ว บ้านเราเงียบสงัดนะครับ ยังเชยแสนเชย ที่โทรทัศน์ขาวดำเพิ่งเริ่มมีเพียงช่องเดียวคือช่องสี่บางขุนพรมในปีพ.ศ.๒๔๙๘  และเพียงไม่กี่เปอร์เซนต์ของปชช.ที่จะมีตู้โทรทัศน์ ซึ่งฉายคืนละสี่ชั่วโมงเท่านั้น ในขณะที่ประชาชนของทั้งประเทศมีเพียง ๒๐ กว่าล้านคน (ในปัจจุบัน ๗๑ ล้านคน) …

รถรางยังวิ่งกันทั้งเมือง ตุ๊ก ตุ๊กก็ยังไม่ทันเกิด มอเตอร์ไซด์แทบไม่มีเลย มีก็แต่รถจักรยาน ที่มีมากที่สุดคือรถสามล้อ 

หนังสือพิมพ์ก็มีอยู่เพียงไม่กี่ฉะบับ นิตยสารปกอาบมันก็เหมือนกัน …เพราะฉะนั้นเราไม่มีข่าวคราวอะไรกันมากมายนัก โดยเฉพาะข่าวแฟชั่น เพราะเราไม่มีดีไซเนอร์หนึ่งใดที่ติดตลาดในระดับโด่งดังเป็นจริงเป็นจัง  มีเพียงท่านแรกและท่านเดียวของสมัยนั้น ก็คือม.จ.ไกรสิงห์ วุฒิชัย

ฉะนั้นตามอายุขัยของข้าพเจ้าซึ่งจะครบ ๘๒ ปีในเดือนพฤศจิกายนที่กำลังจะมาถึง จึงขอเรียนว่าปี พ.ศ. ๒๕๐๐ นั่นแหละ ที่บ้านเรามีแฟชั่นโชว์ หรือใช้คำว่า”แฟชั่นโชว์”เป็นครั้งแรก 

หรือครั้งแรกที่เรา ๆ ได้ยินคำว่า”แฟชั่นโชว์” ก็คืองานมอบรางวัลตุ๊กตาทองครั้งแรกของบ้านเรา ที่ลุมพินีสถาน   …ในปีนั้น 

งานนี้ดังมาก ดังมโหฬาร ประการแรกเพราะมันเป็นงานแรกของตุ๊กตาทอง 

และแฟชั่นโชว์แรกสุดของหม่อมเจ้าไกรสิงห์ วุฒิชัยด้วยเสร็จสรรพ แสดงแบบโดยดาราภาพยนตร์สวยงามที่สุดของตอนนั้น ๔ คน คือวิไลวรรณ วัฒนพาณิชย์ ผู้ชนะเลิศจาก”สาวเครือฟ้า” งามตา ศุภพงศ์ นางเอกของ”ชั่วฟ้าดินสลาย” ประภาพรรณ นาคทอง/หญิงเล็กคนแรกของ”บ้านทรายทอง” และเยาวนารถ ปัญยโชติ  นางรองของรักริษยา …หนึ่งในสี่ของนักแสดงไทยในภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดเรื่อง”สะพานข้ามแม่น้ำแคว” ซึ่งก็ออกฉายในปีพ.ศ. ๒๕๐๐ 

ในขณะที่แฟชั่นโชว์ที่เวทีตุ๊กตาทองดังกล่าวที่สวนลุมพินีสถาน ก็เดินกันเพียงชุดเดียว ก็คือชุดที่แต่งกันในคืนนั้นนั่นแหละ กล่าวคือมันก็ยังไม่เป็นแฟชั่นโชว์เป็นจริงเป็นจังอยู่ดี 

แต่ที่กำลังดังในวงสังคมชั้นสูง เรียกง่าย ๆ ว่าเราส่วนมากเข้ากันไปไม่ถึง คือแฟชันโชว์ระบบ exclusive  คราวนี้แทบเป็นจริงเป็นจัง จัดเสนอและแสดงโดยลูกท่านสามเธอสามคน อันมีคุณพัฒศรี บุนนาค …ม.ร.ว.สุพินดา จักรพันธุ์ และม.ล.เทพิน จาตุรจินดา  ในแฟชั่นแบรนด์เนมจากเมืองนอก จัดกันในสโมสรหรูหราสำหรับสมัยนั้นตอนเวลาน้ำชา 

ในขณะที่คำว่าไฮโซฯยังไม่เกิด ในสมัยนั้นเราเรียกไฮโซฯกันว่าเป็น”ดาวสังคม” 

แต่แฟชั่นของเราจะมาแรงมากเพราะสมาชิกของราชวงศ์ดั่งม.จ.ไกรสิงห์ …ประกบไปกับนางหงส์ไทยในขณะนั้น/สามใบเถาลูกท่านหลานเธอ/สามเกลอดังกล่าวที่ร่วมกันสร้างข่าวแฟชั่น …

เพราะแฟชั่นประจำวันของบ้านเราในตอนนั้น 

คุณเอ๋ย …ว่ากันตรง ๆ ก็คือแฟชั่นแสนเฉิ่ม(คำนี้ก็ยังไม่เกิดในตอนนั้น)   …เพราะอย่าลืมว่าเรายังไม่มีห้างสรรพสินค้า บูทิ้ค อาจมีห้องเสื้อวิเศษโด่งดังหรูหราดั่ง”กรแก้ว”แต่ดีไซเนอร์ของที่นั่น/คุณหญิงอุไร ไม่เคยจัดแฟชั่นโชว์ 

ฉะนั้นตลาดใหญ่ที่สุดของเสื้อผ้าของผู้คนธรรมดา ๆ ก็คือสะพานหัน ในเมื่อเรายังไม่มีแฟชั่นสำเร็จรูปขายกันเกลื่อนเหมือนปัจจุบัน  

ทุกอย่างจึงเป็นเรื่องของการซื้อผ้า แล้วสั่งตัดที่ร้านตัดเสื้อ 

ซึ่งบางร้านจะเริ่มการสอนการตัดเย็บ …คอร์ส์ซึ่งอาจใช้เวลาเป็นเดือน ๆ แล้วจะมีการแจกปริญญาบัตรเมื่อจบการศึกษา …นั่นแหละคือแฟชั่นโชว์ระดับมาตรฐานของบ้านเรา …ก่อนการเกิดของห้องเสื้อ”เดซีเร่”ของท่านชายไกรสิงห์ 

เพราะนักศึกษาจะมารับปริญญาในชุดที่ตนตัดเย็บ/ออกแบบเองทั้งหมด เพื่อแสดงความสามารถของตน ก็จะเดินออกไปรับปริญญาในชุดดังกล่าว แล้วก็จะถ่ายภาพหมู่ในชุดนั้นด้วย …และนั่นคือแฟชั่นโชว์ที่ผมว่าสุดเฉิ่มแบบเดียวของบ้านเรา …ก่อนคืนแจกตุ๊กตาทองในปีพ.ศ. ๒๕๐๐  

ท่านชายไกรสิงห์จะทรงเสนอแฟชั่นโชว์งานตุ๊กตาทองครั้งที่สอง …ที่ท่านเองทรงรับตุ๊กตาทองจากการออกแบบเครื่องแต่งกายให้แก่ภาพยนตร์เรื่อง”รักริษยา” ปีนั้นคุณอาอมรา อัศวนนท์ บุรานนท์ ชนะเลิศจากบทของ”ปัทมา”ในรักริษยา  

จึงมาถึงแฟชั่นโชว์ของท่านชายทางโทรทัศน์ ซึ่งเกิดขึ้นบ่อยพอควรทีเดียว ในโทรทัศน์ขาวดำ  แต่ก็ยังแสดงแบบกันโดยดาราภาพยนต์และทีวีของสมัยนั้นอยู่ดี 

หรืออาชีพนางแบบยังไม่ทันเกิดที่บ้านเรา   

ดั่งภาพประกอบ อันมี จากซ้าย ท่านแรกผมจำไม่ได้ว่าเป็นใคร ถัดไปคือสุทิน  ผมจำนามสกุลไม่ได้ …แต่ต่อจากนั้นคือประภาพรรณ นาคทอง วิไลวรรณ วัฒนพาณิชย์ สวลี ผกาพันธุ์ สุพรรณ บูรณพิมพ์ เกศริน ปัทมวรรณ และบุศรา นฤมิตร   หากผมจำผิดจำถูก ก็บอกกันมานะครับ 

แต่นั่นแหละคือแฟชั่นโชว์ที่โด่งดังแรกสุดของบ้านเรา ไม่มีอะไรมากมายไปกว่านั้น

หรือทำไปทำมา …นั่นคือประวัติทั้งหมดของแฟชั่นโชว์ของบ้านเรา เริ่มในปีค.ศ. ๒๕๐๐ 

สุขสันต์วันศุกร์นะครับ ทุก ๆ ท่าน

( Cr: Kiccha Buranond )

ข่าวล่าสุด

จากกรณีถนนทรุดยุบลงไปเป็นหลุมลึก บริเวณสถานีวชิรพยาบาล โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง

ภาพเหตุการณ์จะเห็นว่ามีเหมือนดินเรียบ ๆ เป็นกำแพงลงลึกไป จริง ๆ เป็นคอนกรีตกำแพงกันดินของสถานีรถไฟฟ้า กำแพงกันดินจะเป็นเหมือนกล่องที่อยู่ใต้ดิน แล้วภายในกล่องก็เป็นสถานี มีชานชาลา มีรางรถไฟ

วิธีจับงูอย่างง่ายๆ ขวดน้ำพลาสติกเปล่าควรจะเป็นขนาด 1.5 ลิตร

วิธีจับงูอย่างง่ายๆ ขวดน้ำพลาสติกเปล่าควรจะเป็นขนาด 1.5 ลิตร

 โศกนาฏกรรม “ถนนสามเสน” อุทาหรณ์จากรอยต่อที่เปราะบาง

เมื่อเช้าวันที่ 24 ก.ย. 2568 ถนนสามเสนบริเวณหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาลต้องหยุดนิ่ง เมื่อพื้นผิวจราจรทรุดตัวลงเป็นหลุมขนาดใหญ่ กว้าง 30 เมตร ลึก 50 เมตร ต้องทำให้ทั้งทรัพย์สินและเสาไฟฟ้า สร้างความตื่นตระหนกและส่งผลกระทบวงกว้างต่อการใช้ชีวิตของประชาชน

“ชีวิต อุทิศเพื่อสยาม” ฝรั่งทั้งครอบครัวโอนใจเป็นไทย!…ตั้งโรงเรียนแพทย์…คิดพิมพ์ดีดภาษาไทย!!…

สมัยที่ประเทศไทยยังไม่มีความสะดวกสบายเหมือนทางตะวันตก แต่วิถีชีวิตความเป็นไทยก็มีเสน่ห์ ทำให้คนหลายชาติหลายภาษาเลือกเอาเมืองไทยเป็นเรือนตายแทนถิ่นเกิด หลายคนกลายเป็นต้นสกุลไทยในวันนี้ และได้สร้างคุณประโยชน์ให้ประเทศไทยไว้มากราย…

ข่าวอื่นๆ

“ชีวิต อุทิศเพื่อสยาม” ฝรั่งทั้งครอบครัวโอนใจเป็นไทย!…ตั้งโรงเรียนแพทย์…คิดพิมพ์ดีดภาษาไทย!!…

สมัยที่ประเทศไทยยังไม่มีความสะดวกสบายเหมือนทางตะวันตก แต่วิถีชีวิตความเป็นไทยก็มีเสน่ห์ ทำให้คนหลายชาติหลายภาษาเลือกเอาเมืองไทยเป็นเรือนตายแทนถิ่นเกิด หลายคนกลายเป็นต้นสกุลไทยในวันนี้ และได้สร้างคุณประโยชน์ให้ประเทศไทยไว้มากราย…

ฝรั่ง(เศส)ว่าไว้เมื่อ 250 ปีแล้ว แต่ตรงเกือบทุกข้อ

ไม่มีประเทศใดในโลกที่คนทุจริตจะมีวิธีพลิกแพลงมากเท่ากับในประเทศสยาม มีคนชำนาญการในการทำให้คดียุ่ง สามารถทำให้เรื่องร้ายที่สุดกลับไปในทางดีได้และเขาจะเรียกร้องค่าตอบแทนอย่างสูงทีเดียว ตุรแปง ชาวฝรั่งเศส เขียนจากข้อมูลที่ได้จากบาทหลวงบรีโกต์ซึ่งเคยอยู่ในกรุงศรีอยุธยาหลายปีจนกระทั่งกรุงแตก พิมพ์ที่กรุงปารีสใน พ.ศ. 2314 (ค.ศ. 1771)

ม.จ.อุไรวรรณ ทองใหญ่ : เจ้านายผู้ถูกหมั้นหมาย แต่ชะตารักไม่เป็นดั่งฝัน

หม่อมเจ้าหญิงอุไรวรรณ ทองใหญ่ เจ้านายสตรีผู้ทรงเพียบพร้อม ทั้งพระชาติกำเนิดและการอบรมศึกษา ทรงอยู่ในพระอุปถัมภ์ใกล้ชิดสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง