ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงเป็นพื้นที่แห่งความตึงเครียดที่พร้อมจะปะทุขึ้นได้ตลอดเวลา แม้จะมีการลงนามในข้อตกลงหยุดยิงและมีอนุสัญญาออตตาวาเพื่อห้ามการใช้วางกับระเบิดอย่างถาวร แต่ล่าสุด ทหารไทยยังคงได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการเหยียบกับระเบิดอีกครั้ง สะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางของสันติภาพที่ไม่จีรังและเป็นเพียงฉากหน้าของความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ
.
เหตุการณ์ที่พลทหารอดิศร ป้อมกลาง เหยียบกับระเบิดจนขาขาด ขณะลาดตระเวนในพื้นที่ปราสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ไม่ใช่เหตุการณ์โดดเดี่ยว แต่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของปัญหาที่ฝังรากลึก การที่แม่ทัพภาคที่ 2 ออกมายืนยันว่ากับระเบิดที่ใช้เป็นชนิดพลาสติกซึ่งยากต่อการตรวจจับและน่าจะเป็นการวางใหม่ ยิ่งเป็นการตอกย้ำถึงความไม่จริงใจในการปฏิบัติตามข้อตกลงของฝ่ายกัมพูชา
การกระทำดังกล่าวไม่เพียงแต่ละเมิดอนุสัญญาออตตาวาที่ทั้งสองประเทศเป็นภาคี แต่ยังเป็นการบั่นทอนความเชื่อมั่นซึ่งกันและกันอย่างร้ายแรง จนอาจนำไปสู่การตอบโต้ทางการทหารที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
ความเสียหายทางกายภาพของทหารที่บาดเจ็บเป็นเพียงยอดของภูเขาน้ำแข็ง เพราะสิ่งที่ถูกทำลายไปพร้อมกันคือความพยายามทั้งหมดในการรักษาสันติภาพที่เปราะบาง
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา การประท้วงและการส่งหนังสือคัดค้านเป็นเพียงการแสดงออกตามขั้นตอนทางการทูตที่ไม่สามารถเยียวยาบาดแผลที่เกิดขึ้นได้จริง ทั้งแผลกายของทหารและแผลใจของประชาชน
กัมพูชายังละเลยและละเมิดข้อตกลงอย่างต่อเนื่องไม่เคารพกติกา,ข้อตกลงและอนุสัญญาต่าง ๆ ที่ทำขึ้น แล้วจะมีประโยชน์อะไรกับการรักษาไว้ซึ่งสันติภาพ
มันคงเป็นเพียงลายลักษณ์อักษรที่สวยหรูบนกระดาษ แต่ไม่มีความหมายในโลกแห่งความเป็นจริงเลยแม้แต่น้อย