เป็นคำมั่นสัญญาสะท้อนความกล้าหาญ แต่ก็เป็นโจทย์ที่ท้าทายถึงขีดสุด เพราะเวลาที่จำกัด และปัญหาที่ซับซ้อนอาจเกินกว่าจะคลี่คลายในระยะสั้นได้
ความเป็นไปได้ที่จะบรรลุผล
ประการแรกคือภัยสังคมและยาเสพติด
ด้วยการควบตำแหน่งนายกฯ และ รมว.มหาดไทย นายอนุทินมีเครื่องมือที่พร้อมใช้งาน ตั้งแต่ฝ่ายปกครองจนถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยราชการอื่น ช่วยการระดมกวาดล้างเครือข่ายยาเสพติด ค้ามนุษย์ และการพนัน สามารถเห็นผลได้ในเชิงปฏิบัติ แม้จะไม่ถึงขั้น “ถอนรากถอนโคน” แต่ก็น่าจะสร้างแรงสะเทือนเชิงสัญลักษณ์ได้ชัดเจน
ประการที่สอง ภัยธรรมชาติและระบบเตือนภัย การเร่งปรับปรุงกลไกการเตือนภัยและการเยียวยาผู้ประสบภัยเป็นสิ่งที่ทำได้ทันที หากบูรณาการหน่วยงานและงบกลาง โดยเฉพาะหากเกิดภัยพิบัติขึ้นในช่วง 4 เดือนแรก การตอบสนองที่รวดเร็วจะเป็นบทพิสูจน์การทำงานที่ประชาชนจับต้องได้ทันที
ประการที่สาม การเมืองแบบ การประกาศว่าไม่มีเวลาทดลองงาน และจะคืนอำนาจภายใน 4 เดือน ซึ่งเป็น “รัฐบาลชั่วคราว” อาจสร้างความเชื่อมั่นเบื้องต้นว่า รัฐบาลชุดนี้จะไม่ผูกขาดอำนาจ แต่เน้น “ผลลัพธ์สั้นและแรง”
แต่สิ่งที่แทบเป็นไปไม่ได้
ประการแรก ในเศรษฐกิจมหภาค ปัญหาค่าครองชีพ หนี้ครัวเรือน และการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ ไม่อาจแก้ไขได้ใน 4 เดือน แม้จะออกมาตรการเร่งด่วน เช่น ลดราคาพลังงาน หรือพักหนี้ แต่ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมต้องใช้เวลา และยังขึ้นกับปัจจัยโลก ทั้งราคาน้ำมัน ดอกเบี้ยสหรัฐ และภาวะการค้าโลก
ประการที่สอง เรื่องความขัดแย้งชายแดนไทย–กัมพูชา คงต้องการใช้สันติวิธีและการทูตเป็นหลักแม้จะเป็นแนวทางที่ถูกต้อง แต่ในทางปฏิบัติ การเจรจาเรื่องเขตแดนที่ซับซ้อนและโยงกับอารมณ์ชาตินิยม มักใช้เวลายาวนาน การรับประกันว่า “ไม่เสียดินแดน” อาจกลายเป็นแรงกดดันกลับ หากความตึงเครียดปะทุขึ้นในช่วงเวลาสั้น ๆ
ประการที่สาม ในการแก้รัฐธรรมนูญใหม่ แม้นายอนุทินประกาศว่าจะยุบสภาฯ เพื่อเปิดทางสู่รัฐธรรมนูญใหม่ แต่การเริ่มต้นกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญเป็นงานที่ต้องอาศัยความเห็นร่วมจากทุกภาคส่วน ไม่อาจสรุปผลหรือสร้างกลไกที่มั่นคงได้ภายในเวลาแค่ 4 เดือน
ภารกิจนี้จึงเป็นการเดิมพันครั้งใหญ่ในเวลาจำกัด
ภารกิจ “4 เดือน” ของนายอนุทินมีความเป็นไปได้ในเชิงสัญลักษณ์และการปฏิบัติที่จับต้องได้บางเรื่อง เช่น การกวาดล้างภัยสังคม และการจัดการภัยธรรมชาติ แต่แทบเป็นไปไม่ได้ในเรื่องเศรษฐกิจมหภาค ความขัดแย้งชายแดน และการปฏิรูปรัฐธรรมนูญ
ดังนั้น คำมั่นสัญญาครั้งนี้จึงเป็นมากกว่าแผนปฏิบัติการ หากแต่เป็น “เดิมพันทางการเมือง” ที่หวังใช้แรงกระแทกสั้น ๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและทุนทางการเมืองในอนาคต ทว่าหากไม่สำเร็จ ก็อาจกลายเป็น “พันธะสัญญาที่ประชาชนจะทวงถาม” ซึ่งรุนแรงยิ่งกว่าแรงกดดันใด ๆ
คำมั่นสัญญาแก้ปัญหาประเทศครบทุกมิติภายใน 4 เดือน อาจฟังดูคล้ายโปรโมชั่นมือถือ “เน็ตแรง ไม่อั้นใน 4 เดือน”
เพียงแต่นี่คืออนาคตทั้งประเทศที่ไม่มีการ ยืดเวลาใช้งานได้