วันพฤหัสบดี, กันยายน 25, 2025
spot_imgspot_imgspot_img
หน้าแรกINSIDE - INSIGHT"ภูมิใจไทยกับปรากฏการณ์ 'ส.ส. ไหลเข้า  เมื่อการเมืองเปลี่ยนขั้ว...อุดมการณ์เขยื้อนตาม?"

“ภูมิใจไทยกับปรากฏการณ์ ‘ส.ส. ไหลเข้า  เมื่อการเมืองเปลี่ยนขั้ว…อุดมการณ์เขยื้อนตาม?”

เผยแพร่

spot_img

หลังจากการโหวตให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับมอบหมายให้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ดูเหมือนว่ากระแสการ “ย้ายบ้าน” ของ ส.ส. ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างคึกคัก โดยเฉพาะการมุ่งหน้าสู่พรรคภูมิใจไทยที่กลายเป็น “ขั้วอำนาจใหม่” แห่งทำเนียบรัฐบาล ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงอุดมการณ์และความมั่นคงของพรรคการเมืองไทย

                          ล่าสุด ส.ส.จากพรรคประชาธิปัตย์ได้ประกาศลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเดิม และเข้าร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย โดยอ้างเหตุผลว่าไม่สามารถทำงานในพรรคที่มีความขัดแย้งภายในได้ ซึ่งสะท้อนภาพความเปราะบางของพรรคการเมืองเก่าแก่อย่างประชาธิปัตย์ และจุดประกายคำถามถึงแรงจูงใจเบื้องหลังการโยกย้าย

                            ในช่วงเวลาอันรวดเร็วหลังจากการจัดตั้งรัฐบาล พรรคภูมิใจไทยได้กลายเป็นศูนย์รวมของนักการเมืองที่มองหาโอกาสทางการเมืองใหม่ๆ เหมือนเช่นทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลง 

                            มีรายงานการย้ายพรรคที่น่าสนใจและเป็นที่จับตาอย่างใกล้ชิด จากข้อมูลพบว่ามี ส.ส. จากพรรคต่างๆ ทยอยเข้ามาร่วมสังกัดพรรคภูมิใจไทยอย่างต่อเนื่อง อาทิ ส.ส. กว่าครึ่งจากพรรครวมพลังสร้างชาติ ที่ตัดสินใจย้ายมาแทบจะทั้งหมด นอกจากนี้ ยังมี ส.ส. อีก หลายคนจากพรรคพลังประชารัฐ และที่สร้างความประหลาดใจไม่น้อยคือการที่มี ส.ส. หลายคนจากพรรคเพื่อไทย ตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางการเมืองมาอยู่กับพรรคภูมิใจไทยเช่นกัน จนกระทั่งล่าสุดกับกรณีของ ส.ส.จากพรรคประชาธิปัตย์ 

                          การไหลบ่าของ ส.ส. จากหลากหลายพรรคด้วยเหตุผลนานัปการ ไม่ว่าจะเป็น “ความเห็นต่างทางนโยบาย”, “ความไม่ลงรอยภายในพรรคเดิม” หรือ “ต้องการทำงานเพื่อประชาชนในทิศทางที่สอดคล้องกันมากขึ้นกับนโยบายของพรรคใหม่” ล้วนเป็นคำอธิบายที่ถูกหยิบยกมาใช้ แต่สิ่งหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือ 

                            การตัดสินใจย้ายพรรคในช่วงเปลี่ยนผ่านอำนาจรัฐบาลเช่นนี้ มักมีนัยยะแอบแฝงถึง “โอกาสทางการเมือง” ที่กำลังเปิดกว้าง ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งในคณะรัฐมนตรี ที่ต่างก็สมหวังกันไปแล้ว

                           ยังมีตำแหน่งอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอีกมากในคณะรัฐมนตรี     กรรมการในคณะกรรมาธิการต่างๆ ของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นแรงจูงใจที่ปฏิเสธไม่ได้

                          ในบริบทการเมืองไทย  ปรากฏการณ์ “การเมืองน้ำขึ้นเรือน” ในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นว่า  สำหรับนักการเมืองบางส่วนแล้ว “อุดมการณ์ทางการเมือง” ซึ่งควรเป็นหัวใจสำคัญของการทำงานเพื่อชาติ อาจเป็นเพียงวาทศิลป์ที่ใช้รองรับการตัดสินใจเปลี่ยนสังกัด การไหลเข้าสู่พรรคที่มีแนวโน้มเป็นรัฐบาล หรืออยู่ในขั้วอำนาจบริหาร คือสิ่งที่ตอกย้ำว่า “ประโยชน์ส่วนตน” และ “โอกาสในการดำรงตำแหน่ง” อาจมีน้ำหนักมากกว่า “ความยึดมั่นในหลักการ” ของพรรคที่เคยสังกัดมาแต่เดิม 

                             หากเป็นเช่นนั้นจริง นี่คือความท้าทายอย่างยิ่งต่อศรัทธาของประชาชนที่มีต่อระบบพรรคการเมือง และอาจส่งผลให้วงจรอุบาทว์ของการ “ซื้อตัว” ส.ส. เพื่อสร้างเสถียรภาพทางการเมืองยังคงดำเนินต่อไปอย่างไม่รู้จบในภูมิทัศน์การเมืองไทย ที่ผลประโยชน์มักนำหน้าอุดมการณ์

ข่าวล่าสุด

จากกรณีถนนทรุดยุบลงไปเป็นหลุมลึก บริเวณสถานีวชิรพยาบาล โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง

ภาพเหตุการณ์จะเห็นว่ามีเหมือนดินเรียบ ๆ เป็นกำแพงลงลึกไป จริง ๆ เป็นคอนกรีตกำแพงกันดินของสถานีรถไฟฟ้า กำแพงกันดินจะเป็นเหมือนกล่องที่อยู่ใต้ดิน แล้วภายในกล่องก็เป็นสถานี มีชานชาลา มีรางรถไฟ

วิธีจับงูอย่างง่ายๆ ขวดน้ำพลาสติกเปล่าควรจะเป็นขนาด 1.5 ลิตร

วิธีจับงูอย่างง่ายๆ ขวดน้ำพลาสติกเปล่าควรจะเป็นขนาด 1.5 ลิตร

 โศกนาฏกรรม “ถนนสามเสน” อุทาหรณ์จากรอยต่อที่เปราะบาง

เมื่อเช้าวันที่ 24 ก.ย. 2568 ถนนสามเสนบริเวณหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาลต้องหยุดนิ่ง เมื่อพื้นผิวจราจรทรุดตัวลงเป็นหลุมขนาดใหญ่ กว้าง 30 เมตร ลึก 50 เมตร ต้องทำให้ทั้งทรัพย์สินและเสาไฟฟ้า สร้างความตื่นตระหนกและส่งผลกระทบวงกว้างต่อการใช้ชีวิตของประชาชน

“ชีวิต อุทิศเพื่อสยาม” ฝรั่งทั้งครอบครัวโอนใจเป็นไทย!…ตั้งโรงเรียนแพทย์…คิดพิมพ์ดีดภาษาไทย!!…

สมัยที่ประเทศไทยยังไม่มีความสะดวกสบายเหมือนทางตะวันตก แต่วิถีชีวิตความเป็นไทยก็มีเสน่ห์ ทำให้คนหลายชาติหลายภาษาเลือกเอาเมืองไทยเป็นเรือนตายแทนถิ่นเกิด หลายคนกลายเป็นต้นสกุลไทยในวันนี้ และได้สร้างคุณประโยชน์ให้ประเทศไทยไว้มากราย…

ข่าวอื่นๆ

 โศกนาฏกรรม “ถนนสามเสน” อุทาหรณ์จากรอยต่อที่เปราะบาง

เมื่อเช้าวันที่ 24 ก.ย. 2568 ถนนสามเสนบริเวณหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาลต้องหยุดนิ่ง เมื่อพื้นผิวจราจรทรุดตัวลงเป็นหลุมขนาดใหญ่ กว้าง 30 เมตร ลึก 50 เมตร ต้องทำให้ทั้งทรัพย์สินและเสาไฟฟ้า สร้างความตื่นตระหนกและส่งผลกระทบวงกว้างต่อการใช้ชีวิตของประชาชน

การรับมือการบิดเบือนข้อมูลของกัมพูขาต้องใช้ยุทธศาสตร์เชิงรุกในการจัดการปัญหาชายแดน

จากรายงานข่าวที่สะท้อนให้เห็นถึงการที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงและใช้การบิดเบือนข้อมูลเป็นเครื่องมือในการสร้างความชอบธรรมให้กับการกระทำของตน แนวทางของรัฐบาลไทยที่มอบอำนาจให้ฝ่ายทหารตัดสินใจอย่างเด็ดขาด จึงเป็นเพียงครึ่งหนึ่งของยุทธศาสตร์ทั้งหมดที่ต้องนำมาใช้เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่ซับซ้อนนี้

 ท่ามกลางวิกฤตความมั่นคงที่ชายแดนอันคุกรุ่น

การประกาศตัวเป็นฝ่ายค้านของพรรคเพื่อไทยเพื่อตรวจสอบรัฐบาลใหม่ของนายอนุทิน ชาญวีรกุล ซึ่งเคยเป็นพันธมิตรร่วมรัฐบาลกันมาก่อน กำลังถูกมองว่าเป็นเกมการเมืองที่ขาดประสิทธิภาพและอาจไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์ใดๆ ต่อประเทศชาติ ในช่วงเวลาที่ควรหันมารวมพลังเพื่อรับมือกับภัยคุกคามจากภายนอก.