วันอาทิตย์, ตุลาคม 19, 2025
spot_imgspot_imgspot_img
หน้าแรกสรุปเรื่องซับซ้อน  “กฎ 7 ข้อ” หลังหยุดยิงระหว่างไทย–กัมพูชาจะสัมฤทธิผลหรือไม่  คงไม่นานเกินรอ

  “กฎ 7 ข้อ” หลังหยุดยิงระหว่างไทย–กัมพูชาจะสัมฤทธิผลหรือไม่  คงไม่นานเกินรอ

เผยแพร่

spot_img

                         หลังจากเหตุการณ์สู้รบรุนแรงยาวนานกว่า 5 วันที่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมากที่ยังไม่อาจเปิดเผยได้และพลัดถิ่นรวมกว่า 300,000 คนในชายแดนไทย–กัมพูชานั้น ทั้งสองฝ่ายได้ตอบรับข้อเสนอหยุดยิงแบบ “ทันทีและไม่มีเงื่อนไข” ที่ดำเนินการผ่านการไกล่เกลี่ยของมาเลเซียโดยมีสหรัฐฯและจีนเข้าร่วมสนับสนุนและสังเกตุการณ์

หลังข้อตกลงหยุดยิงถูกเผยแพร่ แม่ทัพระดับสูงของทั้งสองประเทศได้หารือจัดทำ กฎ 7 ข้อ Ceasefire Protocol เพื่อควบคุมสถานการณ์ภาคสนาม

         กฎ 7 ข้อตามข้อตกลงหยุดยิง

 1. ยุติการเคลื่อนกำลัง ทั้งสองฝ่ายต้องหยุดเคลื่อนย้ายกำลังเข้าพื้นที่แนวชายแดนทันที

 2. หยุดยิงทุกชนิด ห้ามใช้อาวุธหนักรวมถึงเครื่องบิน ปืนใหญ่ และระเบิดแบบใดก็ตาม

 3. คืนผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตให้กับสองฝ่ายภายในระยะเวลาที่กำหนด

 4. เปิดพื้นที่ให้ที่ปรึกษาระหว่างประเทศเข้าตรวจสอบ เช่น ยอมให้ UN หรือผู้แทนอาเซียนสังเกตการณ์

 5. ตั้งคณะทำงานร่วม (Coordination Teams) ระดับแม่ทัพภาคเพื่อสื่อสารระหว่างกันหากมีเหตุฉุกเฉิน

 6. คืนดินแดนที่ยึดครอง หากฝ่ายใดเข้ายึดพื้นที่ที่ตกเป็นข้อพิพาท

 7. เชิญหน่วยงานสังเกตการณ์อิสระเข้าเฝ้าติดตาม ตลอดช่วงบังคับใช้ข้อตกลงแรก

กฎข้อที่ 4–7 ได้รับการยืนยันจากตัวแทนทั้งสองว่าจำเป็นต่อความน่าเชื่อถือของ Protocol  

                             การเจรจาครั้งนี้มีแม่ทัพไทยและแม่ทัพกัมพูชาเป็นผู้ลงนามโดยตรง ถือเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่า ความขัดแย้งถูกยกระดับเป็นเรื่องระดับประเทศ ไม่ใช่เพียงเรื่องการปะทะเฉพาะกลุ่มทหารหน้าใดหน้าหนึ่งอีกต่อไป   

                             กลไกเชิงเทคนิค  อาทิ  JBC, GBC, RBC ยังถูกเรียกใช้ต่อจาก Protocol เพื่อให้เกิดการติดตามในระยะยาว  

                   แม้กฎเหล่านี้จะมีเป้าหมายเพื่อหยุดความรุนแรง แต่ข้อถกเถียงเรื่องการละเมิดได้เกิดขึ้นทันทีหลังการหยุดยิง — เช่นข้อกล่าวหากัมพูชายิงต่อเนื่องแม้ข้อตกลงหยุดยิงจะมีผลแล้ว ซึ่งฝ่ายไทยกล่าวหาอย่างน้อย 3 ครั้ง   

                 ฝั่งกัมพูชาอ้างว่าไม่มีข้อมูลยืนยัน พร้อมเรียกร้องให้มี “กลไกตรวจสอบอิสระ” ตามข้อที่ 4–7 เพื่อให้การทำงานโปร่งใสและน่าเชื่อถือ   

                 บทบาทระดับนานาชาติและผลประโยชน์ร่วมติดตามมาอยู่ในสถานการณ์ครั้งนี้ด้วย กล่าวคือ

          มาเลเซีย ในฐานะเจ้าภาพไกล่เกลี่ย ได้ทำหน้าที่เป็นตัวกลางและยืนยันว่าสถานการณ์จะได้รับการเจรจาต่อผ่านไทย–กัมพูชาอย่างเป็นระบบ   

      สหรัฐอเมริกา โดยประธานาธิบดี Trump ใช้กลไกการค้ากดดันว่า หากความรุนแรงไม่ยุติ ภาษีนำเข้า 36% จะถูกบังคับใช้ แรงจูงใจด้านเศรษฐกิจนี้ช่วยให้ประเทศไทยและกัมพูชายอมรับ Protocol อย่างเร็วขึ้น   

     อาเซียน โดยเฉพาะมาเลเซียและไทย ชี้ว่าควรเปิดโอกาสให้มีหน่วยงานในอาเซียน หรือ UN เข้ามาสังเกตการณ์เพื่อรับรองความถูกต้องของข้อตกลง   

                 นักวิเคราะห์การเมืองระหว่างประเทศเห็นว่า การสู้รบ 5 วัน ครั้งนี้สมตามเจตนารมณ์ของกัมพูชา ที่แม้จะถูกมองว่าเป็นผู้จุดชนวนก่อเหตุ  ก็เพื่อให้พ้นจากสถานการณ์การเมืองภายในที่เลวร้ายให้คลี่คลายได้และมาเลเซียเป็นคนกลางหาทางลงให้                

สำหรับประเทศไทย แม้ว่าสถานการณ์การเมืองง่อนแง่นจากผู้นำ แต่ความเข้มแข็งของกองทัพกลับผลักดันให้โดดเด่นในสายตาประชาคมโลกที่ยึดมั่นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศโดยแก้ปัญหาตามขั้นตอนอย่างระมัดระวังที่จะไม่ให้กระทบใด ความสัมพันธ์จนไม่อาจแก้ไขได้

                 กฎ 7 ข้อ Ceasefire Protocol  หลังการหยุดยิง นับเป็นก้าวสำคัญทางยุทธศาสตร์   ที่จะเปลี่ยนจากการปะทะสู่การเจรจาโครงสร้าง โดยใช้โครงสร้างความเชื่อมั่นผ่านคณะกรรมการร่วมและหน่วยงานอิสระที่จะได้ตรวจสอบ

          อย่างไรก็ตาม เราเห็นว่าความเปราะบางยังคงมีสูงเพราะอาศัยที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องจริงใจตามข้อตกลง และมีการตรวจสอบอย่างโปร่งใส  หากไม่อาจทำได้สถานการณ์อาจกลับสู่ความตึงเครียด

ข่าวล่าสุด

อินโดนีเซียทุ่ม 9 พันล้านดอลลาร์  ‘ซื้อเครื่องบินรบ J‑10 จากจีน’ 42 ลำ

อินโดนีเซียเตรียมเข้าซื้อเครื่องบินขับไล่ J-10C ของจีนซึ่งอาจทำให้อินโดนีเซีย กลายเป็นกองทัพต่างชาติรายที่สองที่ใช้งานเครื่องบินรบรุ่นนี้ ต่อจากปากีสถาน การเข้าซื้อครั้งนี้ถือเป็นการซื้อเครื่องบินรบที่ผลิตในจีน ครั้งแรกของอินโดนีเซีย

กฐินทาน.. มหากาลทาน ๑ ปี มีครั้งเดียว

กฐินทาน คือ การถวายผ้าแด่พระภิกษุสงฆ์ผู้ทรงรักษาศีล สมาธิ และปัญญาอย่างเคร่งครัด หลังจากที่ได้จำพรรษาตลอดฤดูฝนในวัดหรืออารามแห่งใดแห่งหนึ่ง การถวายกฐินนี้ถือเป็นการทำบุญที่ยิ่งใหญ่และสำคัญยิ่ง เนื่องจากเป็นกาลทาน ที่นำมาซึ่งอานิสงส์อันมากมายให้แก่ผู้ที่ได้มีโอกาสทอดถวาย

 “มารยา” แห่งพนมเปญ  เมื่อกัมพูชาตระบัดสัตย์ปราบสแกมเมอร์

ความยินดีในการร่วมมือกับเกาหลีใต้เพื่อปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ของนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ฮุน มาเนตกลายเป็นเพียงฉากหน้าของ “มารยาทางการทูต” เมื่อผู้นำกัมพูชาปฏิเสธการร่วมมือกับไทยอย่างโจ่งแจ้ง ซ้ำยังผลักภาระให้ไทยไปแก้ปัญหาตนเองก่อน

วาระตกต่ำของ “ค่ายสีแดง” สะท้อนเกมอำนาจใหม่ เมื่อร่างรัฐธรรมนูญ “เพื่อไทย” ถูกโหวตคว่ำในสภา

มติที่ร่างฯ ถูกตีตกเพราะขาดเสียงสนับสนุนจากวุฒิสมาชิก เพียงหยิบมือ คือสัญญาณอันชัดเจนว่า กลไกอำนาจรัฐได้เปลี่ยนมือไปแล้วอย่างสมบูรณ์

ข่าวอื่นๆ

NT ผนึก จุฬาฯ ร่วมสร้างอนาคตไทยด้วยเทคโนโลยีเสริมสร้างบุคลากรรุ่นใหม่และสังคมแห่งการเรียนรู้

พันเอก สรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT และ ศ.ดร.วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมลงนามการจัดทำข้อตกลงความร่วมมือร่วมสร้างอนาคตไทยด้วยเทคโนโลยี

“แก้วสรร” เผยแพร่บทความ “ทักษิณ” ยื่นขอพระราชทานอภัยโทษ ผิดหลักกฎหมาย ร้องซ้ำไม่ได้ มีโอกาสติดคุกเพิ่มเป็น 18 ปี

นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการอิสระ เผยแพร่บทความในรูปแบบถาม-ตอบ เรื่อง "คำขอพระราชทานอภัยโทษ ในโทษจำคุก 1 ปี ของทักษิณ"

ทั่วโลกตะลึง ‘อิสราเอลโจมตีโดฮา’ รัฐบาลกาตาร์-UN ประณาม หวั่นกระทบข้อตกลงหยุดยิง!

10 กันยายน 2568 ซูไฮล์ อัล-ฮินดี สมาชิกฝ่ายสำนักงานการเมืองของกลุ่มฮามาส ประกาศกับสื่อว่า #อิสราเอล ได้ทำการ #โจมตีกรุงโดฮา เมืองหลวงของ #กาตาร์ มีเป้าหมายสังหารคาลิล อัล-เฮย์ยา...