วันพฤหัสบดี, สิงหาคม 14, 2025
spot_imgspot_imgspot_img
หน้าแรกเรื่องสั้น“นาที…มรณะ !”

“นาที…มรณะ !”

เผยแพร่

spot_img

แสงแดดเอียงลู่ปลายอาคารคอนกรีตสีซีด  อ่อนแสงโรยแรงไปทางสุดขอบตึกด้านโน้น

                              เขาลงจากรถกระบะเก่า  มองผนังด้านข้างที่มีรอยร้าวทอดยาวเหมือนเส้นเลือดแข็งตายตามอายุของโกดัง  แล้วกวาดสายตาไปรอบ ๆ ที่เรียงรายด้วยอาคารเก่ารอรื้อ

                              ลูกน้องรี่ไปหยุดยืนตรงประตูเหล็กแผ่นหนาที่ปิดสนิท ริมประตูพ่นสีซีดอักษรบริษัทรับฝากสินค้าเก่าที่เพิ่งล้มละลาย

                              กลิ่นฝุ่นเก่าเข้าปากทุกครั้งที่หายใจ ความเงียบในลานกว้างนั้นหนักอึ้งเกินเหตุ เขามองลูกน้องที่ยกสมุดจดสัญญา ชี้ให้ดูรายการ “ปลดระบบไฟฟ้า,รื้อกล่องจ่ายไฟ,เตรียมเดินไฟใหม่”

                              งานธรรมดาที่เคยทำมาหลายครั้ง

            แต่“เบื้องหลัง”  ….เขายิ้มกับตัวเองที่กุมมันไว้

                                     ที่นี่เคยมีเรื่องทุจริตโกงกัน มีหลักฐานที่ลูกน้องพบและเก็บไว้    มันสำคัญที่จะแปลงเป็นเงินได้มากทีเดียว

            เสร็จงานหน้าฉาก…เขาจะตลุยเรียกเงินทันที….

                                     คนเฝ้าโกดังแอบบอกแหล่งซุกของผิดกฎหมาย  เขาเก็บงำไว้เพื่อรอเวลา …เท่านั้น

                             บอกลูกน้องให้รอที่รถ รอดูสถานการณ์รอบข้าง  จะไว้ใจใครไม่ได้ 

เสร็จงานคราวนี้   มีรางวัลให้อย่างจุใจทีเดียว

                             เตรียมเครื่องมือที่จำเป็นต้องใช้ไว้ให้พร้อม   หากต้องรื้อสายไฟฟ้าชุดแรกในบ่ายวันนี้  ก็จะได้จัดการตามแผนที่คุยกันไว้…

                            ไม่ต้องห่วงเขา  ที่จะเข้าไปสำรวจหน้างานตามลำพังก่อน

                             เสียงบานพับเหล็กดังเอี๊ยดสนั่นในความเงียบขณะประตูเหล็กบานใหญ่ถูกงัดเปิดออก

                             กลิ่นอับชื้นของห้องใต้ดินตีกับกลิ่นฝุ่นเก่า ๆ จากผนังซีเมนต์ที่ผุพัง ไฟเพดานกระพริบเป็นจังหวะเหมือนหัวใจเต้นผิดจังหวะ

                            เดินย่ำข้างทางจนถึงทางเข้า  เหลียวมองไปรอบ ๆ ฝุ่นหนาทึบจนแสบตา  จึงดึงผ้าปิดจมูก สวมไฟฉายคาดหัว และตัดสินใจเดินเข้าประตูคนเดียว

                           พ้นธรณีประตู สัมผัสได้ถึงความเย็นเฉียบที่เกาะตามต้นคอ เงาในโกดังทอดยาวจนเหมือนโพรงว่างไม่มีที่สิ้นสุด แสงไฟแผ่วที่ลอดจากรอยแตกผนังช่วยให้เห็นเพียงแนวลังไม้และท่อนเหล็กพิงกำแพง

                            ก้าวระวังทีละก้าว ลากสายไฟฉายคาดหัวให้ไม่พันกับแขนเสื้อ ไฟค่อยๆ ส่องไปถึงผนังชั้นใน ด้านขวามือมีบานประตูเหล็กอีกชั้น 

       คาดว่านั่นคงเป็นห้องควบคุมไฟ

                           เมื่อดึงที่จับประตูเหล็ก กลอนด้านในขยับด้วยเสียงแหลมแห้ง บานประตูค่อยๆ แง้มเผยห้องสี่เหลี่ยมแคบที่เต็มไปด้วยสายไฟพันยุ่งเหมืินจับขยุ้ม  กล่องจ่ายไฟขนาดใหญ่ฝุ่นจับหนาหนักอยู่มุมห้อง

                           ลังเลชั่วครู่แล้วก้าวเข้าไป   เสียงประตูปิดช้าๆ ตามแรงถ่วง เขาไม่ใส่ใจนัก เพราะตั้งใจจะรื้ออุปกรณ์ด้านหน้าที่เห็นให้เสร็จแล้วออกไปขนอุปกรณ์เครื่องมือกลับมาอีกครั้งพร้อมลูดน้อง

                           บรรยากาศในห้องแคบหนาแน่นราวกลิ่นสนิมกับร่องรอยอับชื้นสะสมมานานหลายปี เส้นสายไฟจำนวนมากห้อยระโยงระยางเหมือนร่างสัตว์ตาย หัวใจเขาเต้นเร็วขึ้นเล็กน้อยจากแรงประหม่าในที่คับแคบ

                          เหลีอบมองไปรอบ ๆ แล้วย่อเข่าลงตรวจกล่องไฟ มือไล่คลำหากลอนยึดเพื่อลองง้างฝาให้เปิด   คลำนำทางไปทีละนิด….

                          แต่ปลายนิ้วกลับไปสะกิดสวิตช์ขนาดเท่าเหรียญที่ฝังอยู่บนแผงควบคุม

                          เสียงคลิกเบาๆ ดังในความเงียบ ก่อนไฟสีแดงดวงเล็กบนตัวกล่องติดขึ้นทันที

                          เขาผงะ…ขยับถอยหลังจนล้มกับพื้น….!!

                          แสงไฟนั้นกระพริบสองครั้ง ก่อนจอดิจิทัลตัวใหญ่เหนือกล่องแสดงตัวเลขสีแดงเข้ม

                          เขาตื่นตระหนกทันที…..!!

00:29:59    …..เวลาของนาฬิกาดิจิตอล

                          เสียงนับถอยหลังเริ่มขึ้นด้วยจังหวะสม่ำเสมอ

                          ลมหายใจเขาขาดห้วง เขายกมือปาดเหงื่อที่ผุดเต็มไรผม ความเย็นจากพื้นคอนกรีตเปลี่ยนเป็นความร้อนวูบจนแสบขมับ เขาจ้องตัวเลขที่เคลื่อนลดลงเหมือนถูกตอกย้ำว่ากำลังเผชิญกับอะไร

              หรือมันอาจเป็นระเบิด…ที่ตั้งเวลาไว้….

                          เขาไม่รู้ว่าเป็นระเบิดชนิดไหน ไม่มีคำเตือน ไม่มีเอกสารใดติดไว้ มีเพียงเสียงกลไกนับวินาทีอย่างเย็นชา

                         ลุกขึ้นช้าๆ ขยับเท้าไปสำรวจด้านหลังกล่องไฟ พยายามหาวงจรสำรอง เขาจำใจต้องแก้ปัญหาโดยไม่รู้แน่ชัดว่าถูกต้องหรือไม่

                        00:28:45

                                         มือทั้งสองเริ่มแยกสายไฟออกจากกัน สายแต่ละเส้นพันกันจนแยกไม่ออกว่าเชื่อมกับวงจรใด เขาหยิบไขควงกรีดฉนวนเบาๆ ลมหายใจขาดห้วงเป็นจังหวะ

                        00:25:32

                                        ในความเงียบหนาหนัก เสียงกลไกนับถอยหลังทำให้หัวใจเขากระแทกอกเป็นจังหวะ

                                       เมื่อปลอกฉนวนจนเห็นแกนทองแดง เขาหยิบมัลติมิเตอร์วัดแรงดันไฟ ตัวเลขบนหน้าจอแสดงไฟยังจ่ายเต็ม หากตัดผิดเส้นเดียวอาจจบชีวิต

                        00:21:18

                                       มือเขากดปลายคัตเตอร์ลงอย่างช้า สายไฟเส้นแรกถูกตัดในจังหวะเดียว

                        ไฟดิจิทัลยังคงนับถอยหลังต่อ

                                       เสียงฝีเท้าเคลื่อนมาถึงประตูด้านนอก เขาเหลือบมองผ่านช่องลูกกรงหวังเห็นลูกน้อง แต่เงาที่โผล่มาคือร่างสูงในชุดคลุมสีเข้ม

                         เสียงฝีเท้านั้นหยุดชั่วครู่ ก่อนมีเงาวูบเหมือนยกบางสิ่งขึ้น

            ใครตามมา….!

                                       “โป้ง”

                         กระสุนแรกทะลวงช่องลูกกรง กระแทกกล่องไฟจนฝุ่นกระจาย

                                        เขาทิ้งตัวลงกับพื้น แผ่นหลังแนบคอนกรีตขณะกระสุนอีกสองนัดเฉี่ยวผนัง เศษปูนร่วงกราวบนแขน

                                        โป้ง…โป้ง

                        00:18:06

                         เสียงฝีเท้าเคลื่อนอ้อมห้อง เสียงฝุ่นถูกรองเท้าเหยียบแกร่งในความเงียบ

                         เขากัดฟัน คืบตัวไปอีกมุมหลบเงา ในใจสวดคำขออย่าให้กระสุนเจาะเข้ามาลึกกว่านี้

                          เสียงฝีเท้าห่างออกไปแล้ว  ไฟบนจอดิจิทัลยังคงเคลื่อนลดลงอย่างระทึก

            ใครตามมาล่าเขา….ลูกน้องเขาอยู่ไหน

                        00:15:01

                         เขาผละกลับไปที่กล่องไฟ ก้มลงใช้คัตเตอร์งัดสายไฟอีกเส้น ลมหายใจสั้นขาดเกินจะควบคุม

           โป้ง..โป้ง…..

                       “.…ลูกพี่”

                        เสียงปืนลั่นอีกสองนัดจากด้านนอก เขาสะดุ้งจนเกือบตัดสายไฟพลาดคัตเตอร์ตกลงบนพื้น  เสียงลูกน้องของเขาคงถูกยิงตายไปแล้ว

00:11:23

                      ก้มหยิบขึ้นมาถือไว้  แล้วประคองมือที่สั่นจนชา  ตัดสายไฟเส้นต่อไป ความเงียบกลับมาอีกครั้ง

00:08:45

                                      เสียงฝีเท้าใหม่ดังขึ้นตรงประตู เงาร่างเคลื่อนในแสงไฟอ่อนเหมือนครั้งก่อน

                    คนร้ายคงไม่ลดราวาศอก  ตามมาอีก หัวใจเต้นแรงจนแน่น-อก

                    พยายามฝืนมือจับมัลติมิเตอร์ มืออีกข้างประคองคัตเตอร์จนเกือบจะสี่นเทา

             เหงื่อท่วมใบหน้าและแขน  สองมือเปียกชุ่ม  

                   เสียงโลหะฝืดลากพื้น บานประตูค่อยๆ ถูกงัดจากด้านนอก ใจอึกทึกเหมือนย่ำกลอง

00:03:09

                 หรือมือปืนกำลังตามมาล่าชีวิตเขาที่รู้เห็นการทุจริต

                  เสียงกระแทกประตูเหล็กจนโยกไหว และดูเหมือนจะพังทลายในไม่ช้า

00:02:00

                 มือสั่นระริกจับเครื่องมือ….

                 โป้ง……

00:01:15

                 เงยหน้าจากนอนแผ่ราบ  ลุกขึ้นไปที่เสา

        ประตูโยกสั่นคลอนและกำลังจะพังราบมาแล้ว

00:00:04

                 เขาขบฟัน หลับตา ตัดสายไฟเส้นสุดท้ายจนเสียงขาดดังแกร็ก  

        ไฟกระพริบเป็นจังหวะ พร้อมเสียงแหลม

00:00:00

       ไฟดับสนิท…..!!

            ทันใดนั้น….

                    เสียงระเบิดดังกึกก้อง…. ตูมมมม!!!

แรงสั่นสะเทือนสะท้านจนร่างของเขากระเด็นชนผนังแข็งอย่างแรง

                    ฝุ่นควันตลบหนา หูอื้อจนแทบไม่ได้ยินเสียงรอบข้าง

เขานอนแผ่หงาย ชั่วขณะนั้นสับสนท่วมท้น

                    เงาหนึ่งโผล่เข้ามาทางประตูที่ถูกงัดเปิดออก   

ลูกน้อง …ถือกระเป๋าเครื่องมือที่มีกลิ่นดินปืนคละคลุ้งเข้ามา

                   เขาลุกขึ้นอย่างลำบาก  ถอนหายใจโล่งอก

อ้าปากกว้างตะโกนด้วยความดีใจ  กระโดดขึ้นชูมือ

                 เขาทำสำเร็จจนทุกคนรอดชีวิต….!

                 เดินกระย่องกระแย่งตามลูกน้องออกไปอย่างทุลักทุเลด้วยความกระหยิ่ม

หยุดหน้าอาคารที่ควันยังคละคลุ้งฝุ่นตลบ  ทำหน้าฉงน….

                “ระเบิดจริงอยู่ตรงนี้  ผมหยุดมันเองครับ 

ส่วนตรงลูกพี่… ไม่ใช่ !“

ข่าวล่าสุด

ศาลรัฐธรรมนูญ นัด แพทองธาร-เลขาธิการสภา ความมั่นคงไต่สวนวันที่ 21 สิงหาคม ปมคลิป สนทนาฮุนเซน จากนั้นนัดลงมติตัดสินคดี 29 สิงหาคม

ศาลรัฐธรรมนูญ นัด แพทองธาร-เลขาธิการสภาความมั่นคงไต่สวนวันที่ 21 สิงหาคม ปมคลิปสนทนาฮุนเซน จากนั้นนัดลงมติตัดสินคดี 29 สิงหาคม

 รู้ไหมว่า… อีกา “เข้าหามด” เวลาป่วย?

รู้ไหมว่า... อีกา "เข้าหามด" เวลาป่วย? แม้จะฟังดูประหลาด แต่นี่คือสัญชาตญาณอันชาญฉลาดของนกอีกา!

กัมพูชายังวางทุ่นระเบิดซ้ำซาก ไทยประท้วงครั้งที่ 4 เสียงสันติภาพที่ถูกกลบด้วยระเบิดชายแดน

กัมพูชายังวางทุ่นระเบิดซ้ำซาก ไทยประท้วงครั้งที่ 4 เสียงสันติภาพที่ถูกกลบด้วยระเบิดชายแดน แม้จะมีข้อตกลงหยุดยิงและคำมั่นต่อเวทีนานาชาติ แต่กัมพูชายังคงถูกกล่าวหาว่าละเมิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ด้วยการวางทุ่นระเบิดบริเวณชายแดน จนทำให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บ กระทรวงการต่างประเทศต้องประท้วงเป็นครั้งที่ 4 ภายในเวลาไม่ถึงครึ่งปี พฤติกรรมเช่นนี้กำลังบั่นทอนความไว้วางใจ และอาจทำให้กัมพูชาเผชิญแรงกดดันรอบด้านจากประชาคมโลก

ข่าวอื่นๆ

เห็นเหตุการณ์บ้านเมืองและความขัดแย้งกับเขมรแล้ว นึกถึงคำสอนของท่านดอน  วีโต คอร์ลิโอเน แห่ง The Godfather

หากได้ดูและนำข้อคิดในหนังมาใช้ รับรองจะไม่มีทางเดินหมากตาง่ายๆ พลาด เพราะแม้ The Godfather เป็นหนังอาชญากรรม แต่วิธีคิดในหนังเรื่องนี้ก็ใช้ได้ในแวดวงการเมือง นี่คือ 5 คำสอนจากเจ้าสำนัก ท่านดอน วีโต คอร์ลิโอเน

เรื่องสั้น “นาฬิกา…มรณะ” 

เขาแหงนมองนาฬิกาบนหอคอยแล้วรีบหลบตาลงต่ำเหมือนกลัวบางสิ่งบางอย่าง    ปาดเหงื่อที่ไหลเยิ้มใบหน้าจากความร้อนแดดยามบ่ายไม่หนักหนาเท่า…เท่ากับความเร่าร้อนจากสิ่งลี้ลับข้างหน้า               เหลียวมองรอบตัวยความหวาดหวั่น               ความตาย..เกิดขึ้นได้ทุกวัน !!                                  ตรงนี้…!!               สิบหกนาฬิกาสี่สิบห้านาที                                16.45 นาฬิกา                                  แหงนมองนาฬิกาลูกตุ้มขนาดใหญ่ติดบนหอคอยเก่าคร่ำคร่าของอาคารโบสถ์เก่าที่แปรสภาพเป็นตึกร้างและพังทลายไปบางส่วนแล้ว                                  ต้นไม้น้อยใหญ่ขึ้นระเกะระกะชอนไชตึกร้างจนแตกระแหงและพังไปหลายแถบ               แม้ตะวันคล้อยไปมากแล้ว แต่แสงแดดยังแผดกล้าจนเหงื่อโทรมทั่วกายเสื้อเปียกชุ่มขึ้นมาอีก              เขาจะต้องจัดการให้เสร็จก่อนเวลานั้นจะมาถึง              มันถึงเวลาแห่งความตาย….!               ชายหนุ่มเหลียวซ้ายแลขวาป่ารอบด้านที่ยังสงบเงียบไร้ผู้คน     ออกแรงลากเชือกป่านเส้นหนาม้วนใหญ่ไปตามพื้นรกอย่างทุลักทุเล               มันหนักอึ้งจนไม่อาจยกขึ้นพาดบ่าได้                                  มือป้องแสงแดดแหงนมองนาฬิกาแล้วก้มมองเชือกเก่า ๆ ม้วนนี้ ที่แอบเอามาจากคอกเลี้ยงวัวใกล้หมู่บ้าน                หัวเราะในลำคอว่าถ้าเจ้าของเชือกตามมาเจอ  เขาก็จะต้องถูกจับที่ลักข้าวของผู้อื่นก่อนจะทำงานสำเร็จก็ได้…               ชายหนุ่มปล่อยสายเชือกป่าน แล้วชูมือกระแทกแหวกอากาศไปข้างหน้าว่าเขายอมติดคุกก็ได้ ถ้าหากว่ามันได้ใช้ประโยชน์ช่วยชีวิตคนเคราะห์ร้ายไว้ให้ได้ก่อน                ให้รอดพ้นจากนาฬิกาแห่งความตาย…!!