วันพฤหัสบดี, กันยายน 25, 2025
spot_imgspot_imgspot_img
หน้าแรกวัฒนธรรม ชีวิตอังกฤษหักล้างฝรั่งเศส : ไทยเก่าที่สุดในภูมิภาค และไม่ได้อพยพจากจีน และที่เด็ดกว่านั้น การวิจัย DNA ล่าสุด 2023 ไทกะได เก่ากว่า ฮั่น(จีน)

อังกฤษหักล้างฝรั่งเศส : ไทยเก่าที่สุดในภูมิภาค และไม่ได้อพยพจากจีน และที่เด็ดกว่านั้น การวิจัย DNA ล่าสุด 2023 ไทกะได เก่ากว่า ฮั่น(จีน)

เผยแพร่

spot_img

หลายคนคงเคยได้ยินทฤษฎีฝรั่งเศสที่ว่า “ไทยอพยพมาจากจีนตอนใต้” แนวคิดนี้ถูกเสนอโดยนักวิชาการฝรั่งเศสอย่าง จอร์จ เซเดส์ (George Cœdès, ฝรั่งเศส) และ ออกุสต์ ปาวี (Auguste Pavie, ฝรั่งเศส) ในช่วงศตวรรษที่ 19–20 เป้าหมายของทฤษฎีนี้ไม่ใช่แค่การวิจัยภาษา แต่เป็นการสร้างภาพให้ ลาว–เฃมนดูเหมือนเจ้าของดั้งเดิมของสุวรรณภูมิ ขณะที่ไทยกลายเป็น “กลุ่มอพยพจากภายนอก” (งงม่ะลาวอยู่ที่นี่แต่ไทยมาทีหลัง ทั้งๆ ที่ไทยลาวคือชาติพันธุ์เดียวกัน) แต่…นักวิชาการชาติอื่น โดยเฉพาะ อังกฤษ ไม่เห็นด้วย

อังกฤษลุกขึ้นหักล้าง

งานวิจัยภาษาไทย–ไท–กระได (Tai–Kadai) ของนักวิชาการอังกฤษและยุโรป ช่วยเปิดโปงข้อเท็จจริง

James Richardson Logan (อังกฤษ, 1852) เริ่มทำการวิจัยว่า ภาษาไทย–ลาว–จ้วง–ลี้ อยู่ในตระกูลเดียวกัน Wilhelm Schmidt (เยอรมัน, 1906) บันทึกภาษา, ขนบธรรมเนียม, ความเชื่อ และวัฒนธรรมของชนเผ่าไท–กระได ยืนยันว่า ชนเผ่าไทกระไดมีรากฐานเก่าแก่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไม่ใช่ผู้ย้ายมาจากจีนภายหลัง

ตั้งชื่ออย่างเป็นทางการว่า Tai–Kadai

และยังมีอีกหลายคน ที่ศึกษาต่อมาจนปัจจุบัน

1. Linguistics / ภาษาศาสตร์ Paul Sidwell (ออสเตรเลีย) ศึกษาต้นกำเนิดและการกระจายของภาษาไท–กระไดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ชี้ว่าภาษาไท–กระไดในไทย–ลาว–พม่า–จีนตอนใต้มีความเก่าแก่และกระจายมานานหลายพันปี James R. Chamberlain (สหรัฐอเมริกา) วิจัยการแพร่กระจายของกลุ่มชาติพันธุ์ไท–กระไดและความสัมพันธ์กับกลุ่มออสโตรเอเชียติก เสนอว่าไท–กระไดไม่ได้อพยพจากจีนอย่างเดียว แต่มีต้นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

2. Anthropology / มานุษยวิทยา

Michel Ferlus (ฝรั่งเศส) วิเคราะห์เชิงภาษาศาสตร์-วัฒนธรรมของกลุ่มไทกระได เน้นความสัมพันธ์ระหว่างภาษาและการกระจายของวัฒนธรรมโบราณในภูมิภาคสุวรรณภูมิ Robert B. Jones (สหรัฐอเมริกา / ไทย)

ศึกษาไท–กระไดทางด้านวัฒนธรรมและพันธุกรรม

ชี้ว่าไทกระไดมีเอกลักษณ์เฉพาะและมีรากฐานโบราณมากกว่าขอมและเฃมน

3. Genetics / พันธุกรรม

Mark Stoneking (เยอรมนี / สหรัฐอเมริกา)

วิจัย Haplogroup และ DNA ของประชากรไท–กระได

พบว่าไท–กระไดมี Y-DNA O1b1a1a (O-M95) เก่าแก่ที่สุดในภูมิภาค Piya Changmai (ไทย / นานาชาติ)

วิเคราะห์ DNA โบราณและประชากรไทย–ไทกระได

ยืนยันความเก่าแก่และการกระจายของกลุ่มไท–กระไดในสุวรรณภูมิ

ผลการวิจัยชี้ชัดว่า ภาษาไทยไม่ได้เพิ่งอพยพจากจีนตอนใต้ แต่กระจายอยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และจีนตอนใต้ และมีมาก่อนจีน(ฮั่น)รวมประเทศ

สุราษฎร์ธานี: หลักฐานโบราณคดีช่วยยืนยัน

ถ้าตามทฤษฎีฝรั่งเศส พื้นที่ภาคใต้ควรเป็น “ใหม่” และไม่มีอารยธรรม แต่หลักฐานกลับตรงข้าม จังหวัดสุราษฎร์ธานี แถบไชยา–บ้านดอน มีร่องรอยอารยธรรม ศรีวิชัย–สุวรรณภูมิ กว่า 1,500–2,500 ปี วัดพระบรมธาตุไชยาและเจดีย์โบราณ แสดงการสืบทอดศิลปะและพุทธศาสนาตั้งแต่ก่อนอยุธยา คนสุราษฎร์พูด ภาษาไทย มาตั้งแต่ต้น แสดงว่า ชุมชนไทอยู่ที่นี่อย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่กลุ่มอพยพใหม่

Timeline สุวรรณภูมิไทยโบราณ

ช่วงเวลาเหตุการณ์สำคัญความเชื่อมโยงกับไทยโบราณ / สุวรรณภูมิ ประมาณ 304–232 ปีก่อน ค.ศ. พระเจ้าอโศกมหาราช ปกครองอาณาจักรมอริยาในอินเดีย ส่งเสริม พุทธศาสนา กระจายเข้าสุวรรณภูมิ (เอเชียตะวันออกเฉียงใต้) ผ่านพ่อค้าและนักบวช ศตวรรษที่ 3–1 ก่อน ค.ศ. สุวรรณภูมิปรากฏในเอกสารจีนและอินเดีย (Shan-Yuan-Pu / Suvarnabhumi) เป็นดินแดนทองคำและอารยธรรมเก่าแก่ มีเมืองท่าขนาดใหญ่ทางภาคใต้ของไทย ประมาณ 1–3 ค.ศ. การค้าทางทะเลระหว่างอินเดียกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เฟื่องฟู วัฒนธรรมอินเดีย เช่น ศาสนา พุทธศิลป์ และการเขียนอักษร เริ่มเข้ามาในสุวรรณภูมิ ศตวรรษที่ 3–5 ค.ศ. นักเดินเรือจีนบันทึก สุวรรณภูมิยืนยันความมั่งคั่งและวัฒนธรรมของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก่อนการเกิดอาณาจักรไทยหรือสยาม ศตวรรษที่ 7–8 ค.ศ. นักเดินทางจีนยุคถัง (เช่น Xuanzang) บันทึก Suvarnabhumi ชี้ให้เห็น อารยธรรมท้องถิ่นและการปฏิสัมพันธ์กับอินเดีย ศตวรรษที่ 11–12 ค.ศ. หลักฐานวัดและเมืองโบราณในสุราษฎร์ธานี (วัดไชยา) แสดงว่า ไท–กระไดและชนพื้นเมืองในสุวรรณภูมิมีอารยธรรมตั้งแต่โบราณ

ไทยแลนด์: ชื่อใหม่เพื่อแสดงอารยธรรมอันยิ่งใหญ่

การเปลี่ยนชื่อจาก สยามเป็นไทยแลนด์ ในปี 2482 ก็เป็นการสะท้อนความยิ่งใหญ่ของประวัติศาสตร์ไทย

แสดงให้เห็นว่า ไทยมีรากลึกในสุวรรณภูมิ และเป็นเจ้าของวัฒนธรรมไท–ไทยดั้งเดิม ไม่ใช่ “ผู้มาใหม่จากจีน” ตามที่ฝรั่งเศสพยายามบิดเบือน

ข้อสรุป: อังกฤษชนะการพิสูจน์

ทฤษฎีฝรั่งเศส (Cœdès, Pavie): ไทยอพยพจากจีนตอนใต้ → ทำให้ไทยดูเหมือนผู้มาใหม่ หลักฐานภาษา + โบราณคดี + ประวัติศาสตร์สุราษฎร์ (อังกฤษและยุโรป): ไทย–ไทอยู่ในสุวรรณภูมิมานานก่อนสมัยอาณานิคม การเปลี่ยนชื่อเป็นไทยแลนด์: เป็นการยืนยันความยิ่งใหญ่ของชาติและอารยธรรมไท

งานวิจัยทางพันธุกรรมล่าสุดยืนยันว่า ชนเผ่าไท–กระไดมี DNA ที่เก่าแก่กว่า ขอมและเขมรหลายพันปี แสดงว่าชาวไทเป็นชนชาติดั้งเดิมในภูมิภาคสุวรรณภูมิ ขอมและเขมรเกิดขึ้นทีหลัง และไม่ได้สืบทอดอารยธรรมไท–ไทยโดยตรง

ความเก่า และ ระหัส DNA

Tai-Kadai / THA

O1b1a1a (O-M95)

B4a, F1a, M7b1

~5,000–8,000 ปี (สายลึกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้)

ขอม (Khom, ดั้งเดิม)

Austroasiatic / KHM

O2a2 (O-M324) / บางส่วน O1b1a1a

R9c, M7b, F1a

~1,500–2,000 ปี (อารยธรรมขอมเริ่มประมาณนี้)

เฃมน (Khmen ปัจจุบัน)

Austroasiatic / KHM

O2a2 (O-M324)

R9, M7, B5

~1000 ปี (สายพันธุ์ผสมหลายกลุ่ม)

เวลาผ่านไป หลายพันปีแล้ว แต่กลุ่มคนไทที่อยู่ใน จีน อินเดีย พม่า ลาว เวียดนาม ก็ยังคงสามารถพูด/สื่อสารกับคนไทย นับเลขแบบไทยได้ ทั้งๆ ที่ ไม่เคยอยู่ในสยาม

งานวิจัย UPDATE ล่าสุด 2023 …. ไท เก่ากว่า ฮั่น (จีนกลาง)

1. Mark Stoneking (สหรัฐอเมริกา)

นักพันธุศาสตร์ประชากร (population geneticist)

วิเคราะห์ mtDNA และ Y-DNA ของกลุ่มชาติพันธุ์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พบว่า กลุ่มไท–กระไดและออสโตรเอเชียนเก่ากว่าชาวฮั่นและจีนกลาง

2. Laurence P. Mueller & Li Jin (สหรัฐ/จีน)

วิจัย การเปรียบเทียบ DNA ชนพื้นเมืองเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับจีน สรุปว่า ประชากรไท–กระไดมีรากพันธุกรรมดั้งเดิมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก่อนขยายตัวของฮั่น

3. Wilhelm Schmidt (เยอรมัน, 1906–1930s)

แม้เป็นนักภาษาศาสตร์และมานุษยวิทยาโบราณ แต่ สังเกตหลักฐานวัฒนธรรมและภาษาของไท–กระได

สนับสนุนแนวคิดว่าไท–กระได เป็นชนพื้นเมืองเก่าแก่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไม่ใช่ผู้ย้ายมาจากจีน

การวิจัย DNA ได้ยืนยันแนวคิดของเขาในยุคหลัง

สรุปง่าย ๆ: ต่อให้มันเคลมขอมได้ มันก็เคลม ไทกระได ไม่ได้

The British refute the French: The Thais are the oldest in the region and did not migrate from China. And even more amazingly, the latest DNA research in 2023 shows that the Tai-Kadai are older than the Han (Chinese).

Many people have probably heard of the French theory that “Thais migrated from southern China.” This idea was proposed by French scholars like Georges Cœdès (France) and Auguste Pavie (France) during the 19th–20th centuries. The goal of this theory was not just to research the language, but to create an image of Lao-Khmen as the original owners of Suvarnabhumi, while Thais became “an outside immigrant group” (confused? Laos are here but Thais came later, even though Thais and Laos are the same ethnic group). However… scholars from other countries, especially England, disagree.

The British rose up to refute this.

Research on the Thai-Tai-Kadai language by British and European scholars helped expose the truth. James Richardson Logan (British, 1852) began researching the Thai-Lao-Zhuang-Li language family. Wilhelm Schmidt (German, 1906) Records of the language, customs, beliefs, and culture of the Tai-Kadai tribe confirmed that the Tai-Kadai tribe had ancient roots in Southeast Asia and were not later immigrants from China.

It was officially named Tai-Kadai.

Many others continue to study it today.

1. Linguistics Paul Sidwell (Australia) studied the origins and distribution of the Tai-Kradai language in Southeast Asia, pointing out that the Tai-Kradai language in Thailand-Laos-Burma-southern China is ancient and has been distributed for thousands of years. James R. Chamberlain (United States) researched the spread of the Tai-Kradai ethnic group and its relationship with the Austroasiatic group, suggesting that the Tai-Kradai did not migrate only from China, but originated in Southeast Asia.

2. Anthropology

Michel Ferlus (France) conducted a linguistic and cultural analysis of the Tai-Kradai group, emphasizing the relationship between language and the distribution of ancient cultures in the Suvarnabhumi region. Robert B. Jones (USA/Thailand) studied the Tai-Kradai culture and genetics. He pointed out that the Tai-Kradai have a unique identity and have more ancient roots than the Khom and Khmen.

3. Genetics

Mark Stoneking (Germany / USA)

Research on haplogroups and DNA of the Tai-Kradai population It was found that the Tai-Kradai have the oldest Y-DNA O1b1a1a (O-M95) in the region. Piya Changmai (Thailand / International)

Ancient DNA analysis and the Tai-Kradai population Confirm the antiquity and distribution of the Tai-Kradai group in Suvarnabhumi.

The research results clearly indicate that the Thai language did not recently migrate from southern China, but rather spread throughout Southeast Asia and southern China, predating the unification of the Han Chinese.

Surat Thani: Archaeological evidence supports this. According to the French theory, the southern region should be considered “new” and uncivilized. However, evidence contradicts this. Surat Thani Province, in the Chaiya-Ban Don area, contains traces of Srivijaya-Suvarnabhumi civilizations dating back 1,500–2,500 years. Wat Phra Borommathat Chaiya and ancient chedis demonstrate the continuation of art and Buddhism dating back to before the Ayutthaya period. Surat Thani people have spoken Thai since its inception, indicating that the Tai community has been here continuously, not as a new immigrant group.

Timeline of Ancient Thailand’s Suvarnabhumi

Important Events Linked to Ancient Thailand / Suvarnabhumi: Approx. 304–232 BC

Emperor Ashoka the Great ruled the Maurya Empire in India and promoted Buddhism, spreading it to Suvarnabhumi (Southeast Asia) through traders and monks. 3rd–1st century BC: Suvarnabhumi appears in Chinese and Indian documents (Shan-Yuan-Pu / Suvarnabhumi). It was a land of gold and ancient civilization, with a large port city in southern Thailand. Approx. 1–3 AD: Maritime trade between India and Southeast Asia flourished. Indian culture, such as religion, Buddhist art, and writing, began to be introduced to Suvarnabhumi. 3rd–5th century AD: Chinese navigators recorded Suvarnabhumi, confirming the wealth and culture of Southeast Asia. Before the emergence of the Thai or Siamese kingdoms in the 7th–8th centuries AD, Chinese travelers o

ข่าวล่าสุด

จากกรณีถนนทรุดยุบลงไปเป็นหลุมลึก บริเวณสถานีวชิรพยาบาล โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง

ภาพเหตุการณ์จะเห็นว่ามีเหมือนดินเรียบ ๆ เป็นกำแพงลงลึกไป จริง ๆ เป็นคอนกรีตกำแพงกันดินของสถานีรถไฟฟ้า กำแพงกันดินจะเป็นเหมือนกล่องที่อยู่ใต้ดิน แล้วภายในกล่องก็เป็นสถานี มีชานชาลา มีรางรถไฟ

วิธีจับงูอย่างง่ายๆ ขวดน้ำพลาสติกเปล่าควรจะเป็นขนาด 1.5 ลิตร

วิธีจับงูอย่างง่ายๆ ขวดน้ำพลาสติกเปล่าควรจะเป็นขนาด 1.5 ลิตร

 โศกนาฏกรรม “ถนนสามเสน” อุทาหรณ์จากรอยต่อที่เปราะบาง

เมื่อเช้าวันที่ 24 ก.ย. 2568 ถนนสามเสนบริเวณหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาลต้องหยุดนิ่ง เมื่อพื้นผิวจราจรทรุดตัวลงเป็นหลุมขนาดใหญ่ กว้าง 30 เมตร ลึก 50 เมตร ต้องทำให้ทั้งทรัพย์สินและเสาไฟฟ้า สร้างความตื่นตระหนกและส่งผลกระทบวงกว้างต่อการใช้ชีวิตของประชาชน

“ชีวิต อุทิศเพื่อสยาม” ฝรั่งทั้งครอบครัวโอนใจเป็นไทย!…ตั้งโรงเรียนแพทย์…คิดพิมพ์ดีดภาษาไทย!!…

สมัยที่ประเทศไทยยังไม่มีความสะดวกสบายเหมือนทางตะวันตก แต่วิถีชีวิตความเป็นไทยก็มีเสน่ห์ ทำให้คนหลายชาติหลายภาษาเลือกเอาเมืองไทยเป็นเรือนตายแทนถิ่นเกิด หลายคนกลายเป็นต้นสกุลไทยในวันนี้ และได้สร้างคุณประโยชน์ให้ประเทศไทยไว้มากราย…

ข่าวอื่นๆ

“ชีวิต อุทิศเพื่อสยาม” ฝรั่งทั้งครอบครัวโอนใจเป็นไทย!…ตั้งโรงเรียนแพทย์…คิดพิมพ์ดีดภาษาไทย!!…

สมัยที่ประเทศไทยยังไม่มีความสะดวกสบายเหมือนทางตะวันตก แต่วิถีชีวิตความเป็นไทยก็มีเสน่ห์ ทำให้คนหลายชาติหลายภาษาเลือกเอาเมืองไทยเป็นเรือนตายแทนถิ่นเกิด หลายคนกลายเป็นต้นสกุลไทยในวันนี้ และได้สร้างคุณประโยชน์ให้ประเทศไทยไว้มากราย…

ฝรั่ง(เศส)ว่าไว้เมื่อ 250 ปีแล้ว แต่ตรงเกือบทุกข้อ

ไม่มีประเทศใดในโลกที่คนทุจริตจะมีวิธีพลิกแพลงมากเท่ากับในประเทศสยาม มีคนชำนาญการในการทำให้คดียุ่ง สามารถทำให้เรื่องร้ายที่สุดกลับไปในทางดีได้และเขาจะเรียกร้องค่าตอบแทนอย่างสูงทีเดียว ตุรแปง ชาวฝรั่งเศส เขียนจากข้อมูลที่ได้จากบาทหลวงบรีโกต์ซึ่งเคยอยู่ในกรุงศรีอยุธยาหลายปีจนกระทั่งกรุงแตก พิมพ์ที่กรุงปารีสใน พ.ศ. 2314 (ค.ศ. 1771)

ม.จ.อุไรวรรณ ทองใหญ่ : เจ้านายผู้ถูกหมั้นหมาย แต่ชะตารักไม่เป็นดั่งฝัน

หม่อมเจ้าหญิงอุไรวรรณ ทองใหญ่ เจ้านายสตรีผู้ทรงเพียบพร้อม ทั้งพระชาติกำเนิดและการอบรมศึกษา ทรงอยู่ในพระอุปถัมภ์ใกล้ชิดสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง