1. วัยห้าวฮึกเหิม
วัยนี้เป็นวัยเกษียณช่วงต้น เป็นช่วงที่มีอายุ 60-69 ปี
ส่วนใหญ่ยังแข็งแรง พลังงานยังมีเต็มเปี่ยม
ทำอะไรๆ ได้เหมือนกับช่วงก่อนเกษียณ และหลายคนในวัยนี้
ยังไม่รู้จักคำว่าเกษียณ สามารถทำงานได้ต่อเนื่อง
ทำให้ยังมีรายได้และรู้สึกว่าตนเองยังมีค่าต่อครอบครัวและสังคม
นอกจากนี้ ยังเป็นวัยที่ “ฮึกเหิม” อยากทำสิ่งใหม่ๆ ที่เคยใฝ่ฝันไว้
โดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือน ที่หลายคนอยากเริ่มต้นอาชีพใหม่
นำเงินที่เก็บออมไว้ออกไปลงทุนทำธุรกิจ SME
ทำไร่ ทำสวน ทำร้านอาหาร ฯลฯ
เพราะความห้าว ผสมกับความฮึกเหิมนี้เอง
ที่ทำให้หลายคนต้องสูญเงินที่เก็บออมจำนวนมาก
เพราะเริ่มต้นทำสิ่งใหม่ โดยไม่ได้ศึกษาความเป็นไปได้
ไม่ได้ประเมินความสามารถ ความเหมาะสมกับกำลังวังชาของตน
2. วัยหด
วัยนี้ถือเป็นวัยเกษียณจริง เป็นข่วงอายุ 70-79 ปี
เพราะความสามารถในการใช้ชีวิตจะลดลง
ไม่ว่าอดีตข้าราชการ อดีตผู้บริหาร ผู้มีอาชีพอิสระ หรือเจ้าของกิจการ
จะไม่มีความแตกต่างด้านการใช้ชีวิตในวัยหดสักเท่าไร
ในขณะที่ความสามารถในการหารายได้ลดลงจนเกือบหมด
แต่ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพจะมีมากขึ้น
เพราะโรคภัยจะแสดงอาการออกมาชัดเจนขึ้น จึงควรลดกิจกรรมต่างๆ ลง
และให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาสุขภาพกายและสุขภาพใจให้มากขึ้น
อย่ามั่นใจในศักยภาพในอดีตของตัวเองจนเกินไป
เพราะอาจจะทำให้เกิดปัญหาก่อนวัยอันควร
3. วัยเหี่ยว
วัยนี้เป็นช่วงในวัย 80 ปีขึ้นไป
เป็นช่วงเข้าสู่วัยชรา และวัยพักผ่อนอย่างแท้จริง
โดยในช่วงที่ชราภาพมากๆ จำเป็นต้องมีคนคอยดูแล
เพราะปัญหาสุขภาพจะมีมากขึ้น ความจำจะแย่ลง
ขณะที่ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ จะเป็นเรื่องของสุขภาพ
จึงจำเป็นต้องเตรียมพร้อมทางการเงิน
ไว้สำหรับการใช้จ่ายด้านสุขภาพเป็นหลัก
เพราะฉะนั้นไม่ใช่แค่เห็นว่าอายุ 60 แล้ว
จะเหมารวมว่า เป็นผู้สูงอายุเหมือนๆ กันหมด
คนไทยก็มีอายุยืนขึ้น โดยผู้ชายอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 75 ปี
ขณะที่ผู้หญิงอายุเฉลี่ย 80 ปี
และจากสถิติประชากรของประเทศไทย พบว่า
ถ้ามีชีวิตรอดมาจนถึงอายุ 60 ปีได้แล้วล่ะก็
จะมีโอกาสที่จะมีชีวิตต่อไปถึง อายุประมาณ 80 ปี
เพราะฉะนั้น ถ้าวันนี้ เราประคับประคองชีวิตมาได้จนถึงวัยหลังเกษียณแล้ว
ก็มองตัวเลขอายุ 80 ปีไว้เป็นเป้าหมายได้เลย
จะได้เตรียมพร้อมรับมือกับชีวิตในวัย 70-80 ปีไว้
หากไม่เตรียมความพร้อมในวัยห้าวให้รอบคอบ
ในขณะที่ยังมีเรี่ยวแรงหารายได้ ซึ่งก็อาจจะยังไม่มีความทุกข์ในวันนี้
แต่ถ้าเข้าสู่วัยหดหรือวัยเหี่ยวแล้ว
เราย่อมจะเป็นคนที่มีทุกข์หนักพร้อมเหี่ยวเฉาได้
(7) เรื่องใหญ่ๆ ที่ทำให้ผู้สูงอายุไทยเป็นทุกข์ นั่นคือ
1. การไม่มีเงินใช้/ ไม่มีเงินออมเพียงพอให้ใช้ / หรือมีแต่ไม่พอใช้
2. อยากทำงาน แต่ไม่มีงานให้ทำ ทำให้ขาดรายได้มาเลี้ยงตนเอง
3. ยังมีภาระหนี้สินที่ต้องชำระให้แก่เจ้าหนี้
4. ไม่มีเพื่อนฝูงที่พร้อมให้ความช่วยเหลือเกื้อกูล
5. สุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง/ มีโรคประจำตัว/ ต้องไปหาหมอบ่อย
6. มีลูกหลาน ก็เหมือนไม่มี เพราะลูกหลานเขาก็มีภาระและไม่สนใจดูแล
7. จิตใจไม่เบิกบาน ไม่สดชื่นแจ่มใส หม่นหมอง รู้สึกว่าตนเองไม่มีคุณค่า
จะเห็นได้เลยว่า 3 เรื่องใหญ่ที่ผู้เป็น สว. มีความโชคร้าย คือ
ไม่มีเงิน ไม่มีงาน มีแต่หนี้สิน
ไม่ว่าคุณกำลังอยู่ตรงไหน….
ห้าว หด หรือ … เหี่ยว
การเตรียมความพร้อม ทำความเข้าใจกับสภาพที่เรากำลังเป็นอยู่
หรือ กำลังจะเป็น เป็นเรื่องที่ดีเสมอ
เครดิต : คุณวรวรรณ ธาราภูมิ
ประธานกรรมการบริหาร บลจ.บัวหลวง
เครดิต : Post Today/โต๊ะป้าศรี CH Table
#SISTERLYJewelry
#jeweljuice_thailand
#PositivePowerJewelry
#MadeinChanthaburi