วันพฤหัสบดี, กันยายน 25, 2025
spot_imgspot_imgspot_img
หน้าแรกINSIDE - INSIGHTไทยต้องเดินหมากเชิงรุกเพื่อคุมเกมเกมการทูตบนสมรภูมิชายแดนไทย-กัมพูชา 

ไทยต้องเดินหมากเชิงรุกเพื่อคุมเกมเกมการทูตบนสมรภูมิชายแดนไทย-กัมพูชา 

เผยแพร่

spot_img

ความตึงเครียดตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดบันเตียเมียนเจย ได้ยกระดับขึ้นอีกครั้ง หลังจากนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ได้ต่อสายตรงถึงนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียน เพื่อขอให้เข้ามาไกล่เกลี่ย โดยอ้างว่าไทยใช้กำลังติดอาวุธปะทะกับประชาชนพลเรือน 

                  อย่างไรก็ตาม ข้อเท็จจริงที่ปรากฏบ่งชี้ว่ากัมพูชาเป็นฝ่ายที่นำพลเรือนเข้ามายั่วยุตามแนวชายแดน นำมาซึ่งคำถามถึงแนวทางการรับมือของไทยในเกมการเมืองที่ถูกกระตุ้นขึ้นอีกครั้ง

                   การที่ผู้นำกัมพูชาเลือกใช้การทูตเชิงรุกด้วยการดึงประธานอาเซียนเข้ามาแทรกแซงในประเด็นทวิภาคี เป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่ากัมพูชาไม่ประสงค์จะแก้ปัญหาผ่านกลไกที่มีอยู่ร่วมกัน ซึ่งสวนทางกับความพยายามของฝ่ายไทยที่ยังคงยืนยันในแนวทางการเจรจาผ่านคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) และคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ตามที่เคยตกลงไว้ในอดีต

                   พฤติกรรมนี้สะท้อนถึงยุทธศาสตร์ที่กัมพูชาใช้มาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ความขัดแย้งในช่วงปี พ.ศ. 2554 ซึ่งเน้นการสร้างภาพลักษณ์ความเป็นเหยื่อในเวทีสากล เพื่อสร้างแรงกดดันต่อประเทศไทย

                   พฤติการณ์ตระบัดสัตย์ น่ารังเกียจในเวทีโลก นานาประเทศต่างก็รู้มาช้านาน

                  นักวิเคราะห์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมองว่า เพื่อให้การแก้ปัญหาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและไม่เสียเปรียบในเกมการทูต ไทยจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนแนวทางการรับมือจากการตั้งรับไปสู่การ “สื่อสารเชิงรุก” อย่างจริงจัง

                 ทั้งนี้ ต้องเร่งออกแถลงการณ์ชี้แจงข้อเท็จจริงไปยังองค์การระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้ข้อมูลจากฝ่ายกัมพูชาเป็นข้อมูลเดียวที่เผยแพร่ออกไป พร้อมกันนั้น ต้องใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ให้เต็มศักยภาพ และหากจำเป็นอาจพิจารณาเชิญตัวแทนจากประเทศสมาชิกอาเซียนที่เป็นกลางเข้ามาเป็นผู้สังเกตการณ์ในที่ประชุม เพื่อความโปร่งใสและสร้างความน่าเชื่อถือในเวทีสากล

                 ยิ่งไปกว่านั้น การแก้ปัญหาของไทยควรครอบคลุมไปถึงการแสวงหาพันธมิตรในภูมิภาค โดยการดึงการสนับสนุนจากประเทศในอาเซียนที่ใกล้ชิด เพื่อช่วยกันกดดันให้กัมพูชากลับเข้าสู่กระบวนการเจรจาอย่างสันติวิธีและเป็นไปตามหลักการสากล การแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนในระยะยาวคือการปักปันเขตแดนที่ชัดเจนและเป็นที่ยอมรับของทั้งสองฝ่าย แต่ในระยะสั้น การมีพันธมิตรที่เข้าใจสถานการณ์จะเป็นปัจจัยสำคัญในการลดความตึงเครียดและทำให้ไทยไม่ถูกโดดเดี่ยวในเกมการทูตครั้งนี้

                  เมื่อกัมพูชาเล่นเกมการทูตด้วยการนำพลเรือนเป็น “โล่” สร้างฉากปะทะชายแดน พร้อมชิงฟ้อวร้องเรียนเหมือนทารก

                  คำถามคือ ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ไทยจะหยุดเล่นเกมรับอันแสนสุภาพ และหันมาเดินหมากเชิงรุกบนสมรภูมิสื่อสารและเจรจา เพื่อพิสูจน์ให้โลกเห็นว่าใครคือผู้ที่พยายามก่อสงคราม และใครคือผู้ที่ยังยืนหยัดในสันติภาพอย่างแท้จริง

ข่าวล่าสุด

จากกรณีถนนทรุดยุบลงไปเป็นหลุมลึก บริเวณสถานีวชิรพยาบาล โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง

ภาพเหตุการณ์จะเห็นว่ามีเหมือนดินเรียบ ๆ เป็นกำแพงลงลึกไป จริง ๆ เป็นคอนกรีตกำแพงกันดินของสถานีรถไฟฟ้า กำแพงกันดินจะเป็นเหมือนกล่องที่อยู่ใต้ดิน แล้วภายในกล่องก็เป็นสถานี มีชานชาลา มีรางรถไฟ

วิธีจับงูอย่างง่ายๆ ขวดน้ำพลาสติกเปล่าควรจะเป็นขนาด 1.5 ลิตร

วิธีจับงูอย่างง่ายๆ ขวดน้ำพลาสติกเปล่าควรจะเป็นขนาด 1.5 ลิตร

 โศกนาฏกรรม “ถนนสามเสน” อุทาหรณ์จากรอยต่อที่เปราะบาง

เมื่อเช้าวันที่ 24 ก.ย. 2568 ถนนสามเสนบริเวณหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาลต้องหยุดนิ่ง เมื่อพื้นผิวจราจรทรุดตัวลงเป็นหลุมขนาดใหญ่ กว้าง 30 เมตร ลึก 50 เมตร ต้องทำให้ทั้งทรัพย์สินและเสาไฟฟ้า สร้างความตื่นตระหนกและส่งผลกระทบวงกว้างต่อการใช้ชีวิตของประชาชน

“ชีวิต อุทิศเพื่อสยาม” ฝรั่งทั้งครอบครัวโอนใจเป็นไทย!…ตั้งโรงเรียนแพทย์…คิดพิมพ์ดีดภาษาไทย!!…

สมัยที่ประเทศไทยยังไม่มีความสะดวกสบายเหมือนทางตะวันตก แต่วิถีชีวิตความเป็นไทยก็มีเสน่ห์ ทำให้คนหลายชาติหลายภาษาเลือกเอาเมืองไทยเป็นเรือนตายแทนถิ่นเกิด หลายคนกลายเป็นต้นสกุลไทยในวันนี้ และได้สร้างคุณประโยชน์ให้ประเทศไทยไว้มากราย…

ข่าวอื่นๆ

 โศกนาฏกรรม “ถนนสามเสน” อุทาหรณ์จากรอยต่อที่เปราะบาง

เมื่อเช้าวันที่ 24 ก.ย. 2568 ถนนสามเสนบริเวณหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาลต้องหยุดนิ่ง เมื่อพื้นผิวจราจรทรุดตัวลงเป็นหลุมขนาดใหญ่ กว้าง 30 เมตร ลึก 50 เมตร ต้องทำให้ทั้งทรัพย์สินและเสาไฟฟ้า สร้างความตื่นตระหนกและส่งผลกระทบวงกว้างต่อการใช้ชีวิตของประชาชน

การรับมือการบิดเบือนข้อมูลของกัมพูขาต้องใช้ยุทธศาสตร์เชิงรุกในการจัดการปัญหาชายแดน

จากรายงานข่าวที่สะท้อนให้เห็นถึงการที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงและใช้การบิดเบือนข้อมูลเป็นเครื่องมือในการสร้างความชอบธรรมให้กับการกระทำของตน แนวทางของรัฐบาลไทยที่มอบอำนาจให้ฝ่ายทหารตัดสินใจอย่างเด็ดขาด จึงเป็นเพียงครึ่งหนึ่งของยุทธศาสตร์ทั้งหมดที่ต้องนำมาใช้เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่ซับซ้อนนี้

“ภูมิใจไทยกับปรากฏการณ์ ‘ส.ส. ไหลเข้า  เมื่อการเมืองเปลี่ยนขั้ว…อุดมการณ์เขยื้อนตาม?”

หลังจากการโหวตให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับมอบหมายให้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ดูเหมือนว่ากระแสการ "ย้ายบ้าน" ของ ส.ส. ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างคึกคัก โดยเฉพาะการมุ่งหน้าสู่พรรคภูมิใจไทยที่กลายเป็น "ขั้วอำนาจใหม่" แห่งทำเนียบรัฐบาล